วิกฤติหรือโอกาส? คนสูบบุหรี่ลดลง แต่ราคาใบยาสูบพุ่งสูง!

ยอดบริโภคบุหรี่ในประเทศลดลง แต่ราคาใบยาสูบกลับสูงขึ้น! เกษตรกรปรับตัว ปลูกใบยาสูบทำเงินสูงสุด 3-4 หมื่นบาทต่อไร่

“บุหรี่ไทยซบเซา! แต่ราคายาสูบพุ่ง เกษตรกรเพชรบูรณ์โกยเงิน 3-4 หมื่นบาทต่อไร่”

ยอดสูบบุหรี่ลด! กระทบการยาสูบฯ หรือเป็นโอกาสใหม่ให้เกษตรกร?

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พฤติกรรมการบริโภคบุหรี่ของคนไทยลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผลมาจากมาตรการควบคุมของภาครัฐที่เข้มงวดมากขึ้น ทั้งการกำหนดพื้นที่สูบบุหรี่ให้จำกัดลง และการเพิ่มภาษียาสูบอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การแพร่หลายของบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่เถื่อน ยังส่งผลให้ยอดขายบุหรี่แบบมวนลดลงอย่างต่อเนื่อง

ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงนี้ กลับเกิดปรากฏการณ์ที่น่าทึ่ง น่าแปลกใจขึ้นในวงการเกษตรกรรม ราคาของ “ใบยาสูบ” ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตบุหรี่ กลับพุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบ โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านคลอสีฟัน อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ สามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาล

“ใบยาสูบ” พืชเศรษฐกิจที่ถูกลืม กำลังกลับมาสร้างมูลค่า

บ้านคลองสีฟัน อำเภอหล่มสัก ถือเป็นแหล่งปลูกใบยาสูบ เบอร์เลย์และเตอร์กิต ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พืชชนิดนี้มักปลูกในช่วงฤดูหนาว และสามารถทำรายได้เฉลี่ยสูงถึง 3-4 หมื่นบาทต่อไร่

ถือได้ว่าราคาของใบยาสูบ สูงกว่าการปลูกข้าวอยู่หลายเท่าตัว เกษตรกรในพื้นที่หลายรายปรับตัวจากการปลูกพืชแบบเดิม หันมาปลูกใบยาสูบเพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงขึ้น ทีมข่าวอีจันเศรฐษกิจได้คุยกับแม่คำปน จันมา เกษตรกรไร่ใบยาสูบจากบ้านคลองสีฟัน จังหวัดเพชรบูรณ์ เล่าให้เราฟังว่า ปลูกใบยาสูบราคาดีกว่าปลูกข้าว ปลูกมา 40 ปีแล้วสามารถส่งค่าเหล่าเรียนลูกทั้งหมด 2 คนเรียนจนจบปริญญาตรี แม่คำปน ยังเล่าต่ออีกว่า รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว รับเนาะ ๆ อยู่ที่ 30,000 – 40,000 ต่อไร่ แม่คำปน มีพื้นที่ปลูกใบยาสูบทั้งหมด 13 ไร่ รวมรายได้ทั้งหมดต่อปีอยู่ที่ 300,000 – 400,000 บาทต่อปี ตอบแบบยิ้มแป้นเลยนะครับแม่คำปน

แม่คำปน จันมา
นายภูมิจิตต์ พงษ์พันธุ์งาม ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.)

ทั้งนี้ด้าน นายภูมิจิตต์ พงษ์พันธุ์งาม ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) เปิดเผยว่า แม้ยอดบริโภคบุหรี่ในประเทศจะลดลง แต่การยาสูบฯ สามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ด้วยการขยายตลาดส่งออกไปยังต่างประเทศ เราส่งออกใบยาและบุหรี่มากขึ้น ทำให้สามารถรักษาเสถียรภาพของอุตสาหกรรมยาสูบได้ และระบายสต็อกที่เคยบวมได้ตั้งแต่ปี 2562 -2566 ได้สำเร็จ เกษตรกรไม่ต้องกังวล ผู้ว่าฯย้ำชัดเราพร้อมรับซื้อเฉพาะใบยา เบอร์เลย์-เตอร์กิช ไม่อั้น พร้อมแง้มรายได้การส่งออกย้อนหลัง 3 ปี ดังนี้ครับ

นายภูมิจิตต์ พงษ์พันธุ์งาม ผู้ว่าการการยาสูบฯ ยังพาสื่อมวลชนลงพื้นที่มาดูแหล่งต้นน้ำของใบยาสูบ ที่ได้บูรณาการร่วมกันระหว่างการยาสูบแห่งประเทศไทยและเกษตรกรไร่ยาสูบ ตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บใบยาสูบ วิธีการบ่มใบยาแบบชาวบ้าน ๆ

และนี่จึงเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า แม้คนไทยสูบบุหรี่น้อยลง แต่อุตสาหกรรมยาสูบฯ ยังคงต้องเดินหน้าต่อไป ด้วยการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ ที่สร้างเม็ดเงินเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ขณะเดียวกัน เกษตรกรไทยยิ้มแป้ม สามารถทำรายได้จากการปลูกใบยาสูบได้อย่างต่อเนื่อง

จากพืชที่เคยถูกมองข้ามในวันนั้น

ตอนนี้ “ใบยาสูบ” กลับกลายเป็นขุมทรัพย์ของเกษตรกรไทยอย่างแท้จริง!


เกษตรกรยิ้มแป้น ยอดสูบบุหรี่ในประเทศลด – ราคาใบยาสูบกลับพุ่งสูงขึ้น