
วันที่ 3 มี.ค.68 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ TNN ข่าวค่ำ เกี่ยวกับแนวทางแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ หลังจากอินเดีย ผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก กลับมาส่งออกอีกครั้ง ส่งผลให้ราคาข้าวนาปรังในไทยปรับลดลง ซึ่งเมื่อวันที่ 26 ก.พ.68 ทางคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ได้อนุมัติมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร โดยสนับสนุนเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่

นายพิชัย ระบุว่า ทางกระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมรับมือกับสถานการณ์นี้มานาน และได้คาดการณ์ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ว่าการส่งออกข้าวของอินเดียจะส่งผลกระทบต่อราคาในตลาดโลก รัฐบาลได้เร่งหาตลาดใหม่เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าของข้าวไทย โดยมีการเจรจากับจีนในโควตาการส่งออกข้าว 280,000 ตัน ซึ่งจีนตอบรับและอยู่ระหว่างดำเนินการ นอกจากนี้ ยังได้ขยายตลาดในแอฟริกา ซึ่งสามารถส่งออกข้าวได้แล้ว 370,000 ตัน
นายพิชัย กล่าวว่า “เราไม่ได้นิ่งนอนใจ เมื่อราคาข้าวลดลง เรารีบหาทางช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร นบข. มีมติอนุมัติเงินช่วยเหลือ 1,000 บาทต่อไร่ ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเร่งเสนอเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อให้เงินถึงมือเกษตรกรโดยเร็วที่สุด”
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับชาวนา เพราะ “ความทุกข์ของชาวนาคือความทุกข์ของแผ่นดิน” จำเป็นต้องสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับเกษตรกร โดยในระยะยาว รัฐบาลมีแผนพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว เพื่อแข่งขันกับประเทศผู้ส่งออกหลัก เช่น เวียดนาม ซึ่งมีผลผลิตต่อไร่สูงกว่าไทย รวมถึงการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังมีแนวทางส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชเศรษฐกิจอื่น เพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างรายได้เพิ่มเติม
อินเดียกลับมาส่งออกข้าว ดันราคาข้าวไทยลดฮวบ
การกลับมาส่งออกของอินเดีย หลังจากหยุดไปสองปี ซึ่งทำให้ก่อนหน้านี้ราคาข้าวไทยเคยสูงถึงกว่า 10,000 บาทต่อตัน แต่เมื่ออินเดียเริ่มส่งออกอีกครั้ง ราคากลับปรับลดลงใกล้ระดับปี 2564 เนื่องจากอุปทานในตลาดเพิ่มขึ้น ขณะที่ความต้องการซื้อยังอยู่ในระดับเดิม
ซึ่งนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ได้ย้ำแนวทางให้รัฐบาลผลักดันให้ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น และให้การทำนามีผลตอบแทนที่สูงขึ้น กระทรวงพาณิชย์จึงได้เร่งเจรจากับอินเดียและเวียดนาม เพื่อให้ราคาข้าวอยู่ในระดับที่เหมาะสม นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับพืชเกษตรอื่น เช่น ผลไม้ โดยปีนี้คาดว่าผลผลิตจะออกมาปริมาณมาก กระทรวงพาณิชย์จึงได้เตรียมการตลาดล่วงหน้า พร้อมออกมาตรการอำนวยความสะดวกด้านการส่งออก รวมถึงการตรวจสอบสารตกค้างกับทางจีน ซึ่งเป็นตลาดหลัก เพื่อให้สามารถส่งออกได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะทุเรียน ซึ่งมีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 200,000 ล้านบาทต่อปี ปีนี้ ราคาสินค้าเกษตรโดยรวมอาจไม่ค่อยดีนัก แต่รัฐบาลมองล่วงหน้าและวางแผนรับมืออย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาให้พี่น้องเกษตรกรไทยอย่างเต็มที่