วันนี้ (19 ก.พ.68) รายงานจาก บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์ระบุว่า ราคาทองคำวันนี้ (19 ก.พ.) สามารถปรับตัวขึ้นสร้างระดับสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่ที่ 2,946.46 ดอลลาร์ต่ออนซ์ ส่งผลให้ราคาทองรูปพรรณแตะระดับ 47,450 บาทต่อบาททองคำ
ทั้งนี้ แม้ในคืนที่ผ่านมา (18 ก.พ.) นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้มีการเปิดเผยแผนการปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์จากทุกประเทศที่ 25.0% ขณะที่ภาษีนำเข้าสินค้าเวชภัณฑ์และเซมิคอนดักเตอร์อาจถูกปรับขึ้นด้วยอัตรา 25.0%หรือสูงกว่านั้น ซึ่งมีแนวโน้มบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งส่งเสริมคาดการณ์การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ อีกทั้งยังเพิ่มความกังวลต่อประเด็นด้านเงินเฟ้อในสหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน จากการแถลงของนางแมรี ดาลี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก บ่งชี้ว่า เฟดจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อไป จนกว่าจะพบความคืบหน้าในกระบวนการปรับตัวลงของเงินเฟ้อสหรัฐที่เพิ่มมากขึ้น
นักลงทุนจึงเพิ่มความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงไม่เกิน 0.25% ในปีนี้ ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐขยับตัวขึ้น นับเป็นแรงหนุนของค่าเงินดอลลาร์
แต่กระนั้น ค่าเงินดอลลาร์ยังคงฟื้นตัวขึ้นได้อย่างจำกัด ตามมุมมองของตลาดที่เชื่อว่า นโยบายด้านภาษีศุลกากรของรัฐบาลสหรัฐฯ อาจเป็นเพียงเครื่องมือเพื่อการเจรจาทางการค้ามากกว่าการบังคับใช้จริง
อย่างไรก็ดี นักลงทุนไม่ได้วางใจต่อประเด็นด้านนโยบายดังกล่าวของสหรัฐฯ ทำให้ราคาทองคำยังถูกหนุนให้ปรับตัวขึ้นต่อได้ จากแรงซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
คำแนะนำ
* เสี่ยงซื้อ หากราคาปรับตัวลงไม่หลุดแนวรับโซน 2,920-2,907 ดอลลาร์ต่อออนซ์
* หากราคาหลุดแนวรับดังกล่าว ชะลอการซื้อไปที่แนวรับช่วง 2,892-2,888 ดอลลาร์ต่อออนซ์
* ขายทำกำไร หากราคาปรับตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านโซน 2,942-2,954 ดอลลาร์ต่อออนซ์
* สถานะซื้อควรตัดขาดทุน หากราคาหลุดแนวรับระดับ 2,907 ดอลลาร์ต่อออนซ์