คลัง รับลงทะเบียน “บัตรคนจน” รอบใหม่ ไม่ทัน มี.ค.นี้

รอข้อสรุป! “คลัง” ยอมรับลงทะเบียน “บัตรคนจน” รอบใหม่ ไม่ทัน มี.ค.นี้ หลังติดปัญหาจัดซื้อจัดจ้างทำระบบล่าช้า ยันไม่กระทบผู้ถือบัตรปัจจุบัน เพราะมีงบฯ พร้อมโอนถึง ต.ค.นี้

วันนี้ (19 มี.ค.68) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ว่า คณะอนุกรรมการบริหารข้อมูลโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ จะมีการนัดหมายประชุมปลายเดือนมี.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการดำเนินการเปิดให้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) รอบใหม่อาจมีความล่าช้าจากกำหนดการเดิมที่จะเปิดให้ลงทะเบียนภายในเดือนมี.ค.นี้ เนื่องจากกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างผู้จัดทำระบบลงทะเบียนมีความล่าช้า แต่ยืนยันว่าจะเสร็จทันภายในปีงบประมาณ 2568 (ระหว่างเดือนต.ค.67-ก.ย.68)

ขณะเดียวกัน ส่วนของเกณฑ์คุณสมบัติผู้รับบัตรสวัสดิการจะมีการปรับปรุงหรือไม่นั้น จะมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะเกณฑ์เรื่องรายได้และทรัพย์สินอย่างเหมาะสม

“ความล่าช้าดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อผู้ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในปัจจุบัน รัฐบาลยืนยันว่ามีงบประมาณรองรับและมีความพร้อมในการจ่ายเงินจนถึงเดือนต.ค.68″นายจุลพันธ์ กล่าว

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุคุณสมบัติสำหรับคุณสมบัตรรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2568

  • ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทยอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
  • มีรายได้คนละไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ภายในครอบครัว มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี
  • ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก พันธบัตร ตราสารหนี้ต่างๆ ต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนครอบครัวไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปีเช่นเดียวกัน
  • ต้องไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือที่ดิน เกินจากเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด
  • ต้องไม่มีบัตรเครดิต
  • ต้องไม่มีวงเงินกู้บ้านตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป
  • ต้องไม่มีวงเงินกู้ซื้อรถไม่เกิน 1 ล้านบาทขึ้นไป
  • ต้องไม่เป็นภิกษุ สามเณร ผู้ต้องขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้รับบำเหน็จรายเดือน ผู้รับบำนาญ ข้าราชการการเมือง รวมถึง ส.ส.และ ส.ว.

สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดิม ก็ยังคงได้รับการช่วยเหลือต่อเนื่อง จนกว่าจะมีการเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ วงเงินช่วยเหลือ  1,545 บาท ดังนี้

  • ช่วยค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 300 บาทต่อคนต่อเดือน
  • ช่วยค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน
  • ได้ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน
  • ช่วยมาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
  • ช่วยมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน