เปิดจดหมาย แม่อดีต ผกก.โจ้ เล่าความเจ็บปวดลูก ก่อนจบชีวิตในคุก

ฟังอีกมุม! เปิดจดหมาย แม่อดีต ผกก.โจ้ เล่าความเจ็บปวดลูก ก่อนจบชีวิตในคุก เคยร้องให้ตรวจสอบผู้คุม ทำร้ายลูก

เปิดจดหมาย แม่อดีต ผกก.โจ้ เล่าความเจ็บปวด
ลูกโดนข่มขู่ กลั่นแกล้ง ทำร้าย ก่อนจบชีวิตในคุก

หลัง อดีต ผกก.โจ้ จบชีวิตตัวเองในเรือนจำ ล่าสุดมีการเผยแพร่เอกสารหนังสือร้องเรียน ที่เขียนโดย นางสาวจันทร อุทธนผล แม่ของอดีต ผกก.โจ้ส่งถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568

ข้อความในจดหมายระบุว่า เป็นเรื่องการกลั่นแกล้งและการใช้ความรุนแรง โดยเจ้าหน้าที่ควบคุม ขอร้องเรียนให้ตรวจสอบพฤติกรรม ที่ไม่เหมาะสมของเจ้าหน้าที่ควบคุมที่ชื่อว่า นายสิทธิพร ซึ่งมีการกระทำส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพ ความปลอดภัย และสิทธิขั้นพื้นฐานของนักโทษอย่างร้ายแรง

โดยแม่ของ อดีต ผกก.โจ้ ได้เขียนเล่า พฤติการณ์ของเจ้าหน้าควบคุม แบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา

📌 หตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปลายปี 2567 ประมาณเดือนตุลาคม ถึงเดือนธันวาคม

  • เริ่มต้นจากมีนักโทษรายหนึ่ง พูดใส่ร้าย อดีต ผกก.โจ้ ทำให้ผู้คุมหลายคน มีทัศนคติที่ไม่ดีและต่อว่า อดีต ผกก.โจ้
  • นักโทษคู่กรณี ยังขู่จะทำร้ายร่างกาย อดีต ผกก.โจ้ หลายครั้ง ซึ่งอดีต ผกก.โจ้ คาดว่า สาเหตุที่ นายสุรเชษ ไม่พอใจตนเองที่เคยขอร้อง ให้ไปสูบบุหรี่ไกลจากพื้นที่ห้องนอน ของตัวเอง
  • จากเหตุการณ์นี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ควบคุมที่ เริ่มมีพฤติกรรมกลั่นแกล้งอดีต ผกก.โจ้ ด่าว่าด้วยถ้อยคำรุนแรงภายในห้องส่วนตัว รื้อค้นสิ่งของส่วนตัว เช่น เอกสารสำคัญทางคดี ทำให้เปียกน้ำและเสียหาย ทำให้เอกสารนั้นไม่สามารถใช้การได้ และพยายามที่จะตั้งเรื่องเอาผิด อดีต ผกก.โจ้

แม่ของ อดีต ผกก.โจ้ ยังได้ยกเหตุการณ์เพิ่มเติมในช่วงปี พ.ศ.2567 ไว้ว่า อดีต ผกก.โจ้ ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมกลั่นแกล้ง ยึดเอกสารสำคัญทางคดี ซึ่งอดีตผู้กำกับโจ้ จำเป็นต้องใช้ข้อมูลในการขึ้นศาล โดยอ้างว่านักโทษไม่สามารถเก็บไว้ได้ ต้องนำออกไปจากเรือนจำ

แต่ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ระบุว่า นักโทษสามารถเก็บรักษาเอกสารทางคดีไว้กับตนเองได้

ยังเข้ามายึดพัดลมที่อดีตผู้กำกับโจ้ ขออนุญาตนำเข้ามาอย่างถูกต้อง เพราะมีโรคประจำตัวคือ โรคหัวใจเต้นผิดปกติ ซึ่งแพทย์ระบุให้หลีกเลี่ยงอากาศร้อนและให้ใช้พัดลมป้องกันไม่ให้อาการกำเริบ

พยายามจะยึดแว่นตาดำของอดีตผู้กำกับโจ้ ทั้งที่มีใบรับรองแพทย์ ยืนยันถึงความจำเป็นในการใช้งาน เนื่องจากอดีตผู้กำกับโจ้ เกิดอุบัติเหตุที่ดวงตาขณะรับโทษในเรือนจำ ทำให้ดวงตาไม่สามารถรับแสงได้

เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของอดีตผู้กำกับโจ้ จนทำให้สุขภาพทรุดหนัก มีอาการตัวสั่น โรคหัวใจกำเริบ ต้องถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล จนแพทย์ต้องปรับยารักษาให้แรงมากขึ้น

📌 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เดือนมกราคม 2568

วันที่ 8 มกราคม 2568
อดีตผู้กำกับโจ้ พบว่า นักโทษคู่กรณี เล่นเกมและดูสื่ออนาจาร ซึ่งผิดระเบียบของเรือนจำ จึงพูดแจ้งเจ้าหน้าที่ควบคุม การกระทำนี้มีความผิด แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ควบคุม ด่าทอ ต่อย ผลัก จนเกิดรอยช้ำขนาดใหญ่บนร่างกาย

วันที่ 10 มกราคม 2568
นักโทษคู่กรณี ตั้งข้อกล่าวหาว่า อดีตผู้กำกับโจ้มีพฤติกรรมกระด้างกระเดื่อง และให้นักโทษในความดูแลของตัวเองเป็นพยานยืนยัน อดีตผู้กำกับโจ้จึงถูกย้ายไปยังแดน 5 และถูกขังในซอย

แม่ของอดีตผู้กำกับโจ้ ขอร้องเรียนให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมของ เจ้าหน้าที่ควบคุมอย่างละเอียด และดำเนินการทางวินัยหากพบว่ามีการกระทำผิดจริง

และขอให้มีการนำตัวอดีตผู้กำกับโจ้ ออกจากการคุมขังพิเศษที่แดน 5 โดยเร็ว ขอให้แยกเจ้าหน้าที่ควบคุม ออกจากพื้นที่ใกล้ชิด กับอดีตผู้กำกับโจ้ เพราะกังวลว่าจะส่งผลต่อความปลอดภัย และขอให้อดีตผู้กำกับโจ้ ได้รับการคุมขังในพื้นที่ปลอดภัย โดยต้องเป็นแดนที่ไม่เสี่ยงอันตรายจากการถูกกลั่นแกล้ง

ท้ายเอกสาร แม่ของ อดีต ผกก.โจ้ ยังได้แนบใบรับรองแพทย์ จากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งแพทย์ได้ระบุผลการตรวจร่างกาย ของอดีตผู้กำกับโจ้ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ว่า ได้รับบาดเจ็บบริเวณชายโครงซ้าย จากการกระแทกของแข็งไม่มีคม และพบแผลฟกช้ำเป็นวงเรียงต่อกันเป็นแนว ใต้ราวนมซ้าย

และได้ไปแจ้งความ เรื่องถูกทำร้ายร่างกาย ไว้ที่ สน.ประชาชื่น เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2568

สุดท้าย ช่วงค่ำวันที่ 7 มีนาคม 2568 อดีต ผกก.โจ้ จบชีวิตตัวเอง ด้วยการผูกคอ