
วันนี้ (6 มี.ค. 68) คณะตำรวจไซเบอร์ นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวตำรวจไซเบอร์รวบครูดีเด่น บังคับเด็กทำอนาจารในห้องเรียน พร้อมอัดคลิปไว้กว่า 20,000 ไฟล์

สืบเนื่องจาก กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต (บก.ตอท.) หรือ TICAC ได้รับการประสานจากศูนย์ประสานงานช่วยเหลือเด็กหายและเด็กถูกละเมิดแห่งชาติ ของประเทศสหรัฐอเมริกา (NATIONAL CENTER FOR MISSING & EXPLOITED CHILDREN : NCMEC) ว่าได้ตรวจสอบพบภาพของเด็กชายถูกล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งมีการอัปโหลดในระบบคลาวด์ของแพลตฟอร์มชื่อดัง เมื่อตรวจสอบ IP Address แล้ว พบว่ามีที่มาจากประเทศไทย จึงประสานข้อมูลมายังตำรวจไซเบอร์ให้ช่วยทำการสืบสวน

ต่อมา พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.ตอท. เร่งส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจออกสืบสวนกรณีดังกล่าว โดยกลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต (บก.ตอท.) ได้ออกสืบสวนหาพยานหลักฐานต่างๆ จนพบข้อมูลว่า ผู้กระทำผิดเป็นข้าราชการครูของโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายค้นต่อศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

กระทั่ง ช่วงเช้าของวันที่ 5 มี.ค.68 พ.ต.อ.รุ่งเลิศ คันธจันทร์ ผกก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท./หัวหน้าชุดปฏิบัติการ TICAC 2 พร้อมด้วย พ.ต.ท.พิชิต เอียงสา รอง ผกก.ฯ , พ.ต.ท.ธนพงศ์ธัช อ่อนชูเหมรัต สว.ฯ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ TICAC 5 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นำหมายค้นศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่ง ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์


ผลการตรวจค้น พบนายกฤษณะ อายุ 32 ปี ข้าราชการครูของโรงเรียนแห่งหนึ่ง พร้อมตรวจยึดของกลางจำนวน 2 รายการ คือ โทรศัพท์มือถือ และ External HDD ขนาดความจุ 2 TB และจากการตรวจสอบข้อมูลภายในโทรศัพท์ พบสื่อลามกอนาจารทั้งเด็กหญิงและเด็กชาย จำนวนเกือบ 20,000 ไฟล์ และยังพบสื่อลามกอนาจารเด็กที่นายกฤษณะผลิตเอง

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรวจสอบพบเด็กที่ตกเป็นเหยื่อถูกล่วงละเมิด ซึ่งสามารถระบุตัวตนได้แล้ว จำนวน 8 ราย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบข้อมูลอีกว่า นายกฤษณะ เคยได้รับรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติครูผู้สอนที่มีผลงานเชิงประจักษ์ในระดับเขตพื้นที่การศึกษามาแล้วอีกด้วย

จากการสอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้น เปิดเผยว่า ตนยอมรับว่าเคยพาเด็กไปล่วงละเมิดทางเพศทั้งในบริเวณห้องเรียน และห้องสมุดของโรงเรียน พร้อมบันทึกภาพและคลิปวีดิโอไว้ โดยให้เงินเด็กเป็นค่าตอบแทน แต่อ้างว่าภาพที่ตนเองถ่ายไม่เคยนำไปเผยแพร่ที่ใด
โดยเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อประโยชน์ทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น” ซึ่งผู้ต้องหายอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ส่วนข้อหาอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อหากระทำชำเรา อนาจาร และพฤติกรรมแสวงหาประโยชน์จากเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ผู้กระทำมีอำนาจเหนือเด็ก เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวน และสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม และสืบสวนขยายผลไปยังผู้ร่วมกระทำผิดรายอื่น หรือเด็กที่อาจตกเป็นเหยื่อรายอื่นต่อไป
ในส่วนเด็กผู้เสียหายนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับบ้านพักเด็กจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เข้าพูดคุยกับผู้ปกครอง เพื่อคุ้มครองเยียวยาและนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป