
จากคดี ด.ญ. 10 ขวบ ถูก 3 ชายหื่นใช้ไม้แทงอวัยวะเพศ สู่คดีพ่อเลี้ยงอนาจารลูกเลี้ยง แต่เจ้าตัวยังคงปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้ทำ ทั้งๆ ที่หลักฐานชี้ชัด ขณะที่แม่และย่าของเด็กเอง ก็ยังมั่นใจว่าพ่อเลี้ยงไม่ได้เป็นคนทำ จนถึงขั้นให้ทนายดังมาช่วย
ล่าสุด วันนี้ (19 ก.พ.68) ทนายรัชพล ศิริสาคร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “ผู้ต้องหาคดีทางเพศที่เด็กชี้ตัว มีทั้งทำจริงและไม่ได้ทำจริง ไอ้ที่ทำจริงก็ต้องมีพยานหลักฐานสอดคล้องกัน ส่วนที่ไม่ได้ทำจริง ส่วนหนึ่งก็คือ เด็กโดนเสี้ยมมา, ระหว่างสอบข้อเท็จจริง ญาติพ่อเลี้ยงเด็ก 10 ขวบ ขอคำปรึกษา”
ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังบ้านของแม่เด็ก ที่เป็นห้องแถวเช่าอยู่ริมถนน ได้พบกับ นางสาวน้อยน่า ภรรยานายโอ๊ต และนางนก แม่ของนายโอ๊ต อยู่ภายในห้องเช่า และได้พบกับทนายรัชพล ศิริสาคร ที่กำลังสอบถามข้อมูล ทั้ง 2 คน รวมทั้งขอไทม์ไลน์ของนายโอ๊ต โดยนางสาวน้อยหน่าและนางนก ได้นำโทรศัพท์มาเปิดข้อมูลไทม์ไลน์ให้กับทางทนายรัชพลดู และได้มีการสอบถามเรื่องราวตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ จนถึงวันที่นายโอ๊ตถูกควบคุมตัว โดยศาลอนุมัติหมายจับ ข้อหากระทำชำเรา และอนาจาร และภายหลังจากควบคุมตัว นางสาวน้อยหน่าและนางนกก็ได้มีการติดต่อขอความช่วยเหลือขอความเป็นธรรมให้กับนายโอ๊ต เพราะยังเชื่อว่าเป็นผู้บริสุทธิ์

นางสาวน้อยหน่า เล่าว่า วันนี้ตนรู้สึกดีใจที่มีทนายลงพื้นที่ช่วยเหลือและหาข้อมูล ตอนนี้ก็รู้สึกเครียด สามีก็เครียด ช่วงไทม์ไลน์ที่หายไปคือตอนที่ต้นมาส่งน้อง แล้วไปทำงานต่อน้องอยู่ที่ห้องคนเดียว แฟนยังไม่กลับ และพี่ชายก็ยังไม่กลับ ซึ่งตอนกลับมาอีกทีตอน 3 ทุ่ม แฟนก็อยู่บ้านกับน้องแล้ว
และจากที่สังเกตอาการน้องยังนอนอยู่ และนอนซมบนที่นอน ให้กินข้าวก็ไม่กิน แต่น้องก็ไม่ได้บอกอะไร ตนกับสามีอยู่กินกันมากว่า 10 ปี นิสัยใจคอของสามีก็เป็นคนรักเด็กรักสัตว์ ตนก็ยังไม่ปักใจเชื่อเพราะไม่มีเหตุอะไรที่ต้องมาทำ ตอนนี้ตนก็กังวลทุกเรื่องและตอนนี้โดนกระแสสังคมโจมตีว่ารู้เห็นกับทางพ่อ ซึ่งตนก็ยังต้องรอผลของตำรวจถ้าผลออกมาว่าผิดจริงตนก็ยอมรับพร้อมเลิกขาดทันที แต่ถ้าผลออกมาไม่เป็นความจริงตนก็พร้อมจะต่อสู้เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับสามี วันนี้ทางทนายได้เดินทางมาขอข้อมูลของสามีถึงเรื่องไทม์ไลน์ในการเดินทาง และข้อมูลอีกหลายอย่าง ในส่วนที่คิดว่าจะช่วยเรื่องทางคดีได้หากไม่ผิดจริง

ด้านนางนก เปิดใจทั้งน้ำตาว่า ตนยังมีความเชื่อว่าลูกชายเป็นผู้บริสุทธิ์ จึงได้ร้องขอความช่วยเหลือจากทางทนาย และวันนี้ทางทนายได้ลงทางมาเอาข้อมูล วันนี้ตนเตรียมเดินทางนำเอกสารเพื่อไปยื่นประกันตัวต่อศาล แต่ตนก็ไม่แน่ใจว่าทางศาลจะให้ประกันหรือไม่ ต้องดำเนินการไปก่อนเพราะสงสารลูก ตอนนี้กังวลอย่างเดียวกลัวศาลไม่ให้ประกันตัวลูก ตนก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าตัวลูกไม่ได้ทำแน่นอนแ ละลูกยังเป็นความบริสุทธิ์
อีกทั้ง เมื่อหลายปีก่อนน้องเคยไปตรวจเรื่องพัฒนาการของเด็ก แต่ผลปรากฏว่าน้องไม่ผ่านเกณฑ์ตกทักษะด้านการพูด โดยการไปตรวจที่อนามัยหนองประดู่ใกล้บ้าน จากนั้นทางอนามัยก็ส่งตัวน้องไปตรวจที่โรงพยาบาลหนองใหญ่ต่อแต่ต้นก็ไม่ได้ตามผลอะไร ตอนนี้ตนก็รออย่างเดียวคือผลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้าเกิดว่าผลออกมาตรงกันจริงลูกเป็นคนทำจริง ตนก็พร้อมที่จะยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้ นและให้ตำรวจดำเนินการตามกฏหมายต่อไป แต่ถ้าไม่ตรงและไม่ไม่เป็นความจริงต้นก็จะต่อสู้หาความถูกต้องและความยุติธรรมให้กับลูกชายมีการต่อสู้กลับแน่นอน
ด้านทนายรัชพล ศิริสาคร ได้เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ได้รับการประสานติดต่อมาทางสำนักงานจากนางสาวน้อยหน่า ซึ่งเป็นแม่ของเด็ก มาขอความช่วยเหลือเมื่อหลังจากได้รับความร้องขอมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงไม่จริง ก็ต้องมาดูและหาข้อมูลก่อนเพื่อช่วยเหลือ ถ้าไม่มาก็จะหาว่าไม่ช่วย
วันนี้ก็ได้เดินทางมาตรวจสอบหาข้อเท็จจริงและหาข้อมูลไทม์ไลน์ของตัวนายโอ๊ด ตอนนี้ก็เป็นไปได้ทั้ง 2 ทาง ทั้งเป็นไปได้และไม่ได้ทำ จากการสังเกตสภาพแวดล้อม ภายในห้องเช่าไม่สามารถเป็นไปได้ที่จะก่อเหตุในพื้นที่เพราะเป็นห้องแถวและเป็นห้องติดต่อกันที่มีคนอยู่เยอะ และถ้าถูกกระทำก็ต้องร้องเสียงดังขอความช่วยเหลือได้ ตอนนี้ทางด้านญาติมีความสงสัยในทางคดีว่าอาจจะมีการให้เด็กซื้อตั๋วเพียงอย่างเดียว จากหลายคดีที่ทำมากรณีให้เด็กชี้ตัวมีได้หลายรูปแบบ อาจจะมีทั้งชี้นำ พยานมา หรือเด็กตกใจกลัวมันมีสาเหตุหลายปัจจัย ซึ่งหลักฐานเหล่านี้ก็อาจจะไปยืนยันในศาลเบื้องต้น จากการหาข้อมูลและตรวจสอบหาข้อเท็จจริงหลายอย่าง และที่สำคัญต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอจากทางของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้าเกิดว่าผลออกมาตรงและผู้กระทำมีความผิดจริงก็ไม่มีใครสามารถช่วยเหลือได้ซึ่งตนก็อาจจะไม่สามารถช่วยได้และไม่ช่วยเหลือแน่นอน
หากมีความคืบหน้าจะอัปเดตให้ทราบ