
กวาดหมดไม่สนหน้าไหน..
วันนี้ (13 มี.ค. 68) พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 พร้อมคณะตำรวจสืบสวนภูธรภาค 1 และเจ้าพนักงานตำรวจพิสูจน์หลักฐาน นำหมายค้นศาลอาญาธนบุรี ที่ 89/2568 ลงวันที่ 13 มี.ค.2568 เข้าตรวจค้นห้องพักในอพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่ง ซอยกำนันแม้น 28 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพฯ


ผลการตรวจค้นพบ เครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์แบบใส่ซิมการ์ด (Sim Box) จำนวน 3 เครื่อง (สามารถใส่ซิมการ์ดได้ 32 ช่อง/เครื่อง) , เราเตอร์สัญญาณอินเทอร์เน็ต จำนวน 1 เครื่อง , กล้องวงจรปิด จำนวน 1 ตัว , ปลั๊กสามตา หรือ รางเต้ารับ จำนวน 3 อัน , พัดลมตั้งโต๊ะขนาดเล็ก จำนวน 2 ตัว , เครื่องสำรองไฟ จำนวน 1 เครื่อง และเครื่องส่องสว่างฉุกเฉิน จำนวน 1 เครื่อง



สืบเนื่องจากชุดสืบสวน บก.สส.ภ.1 ได้ตรวจสอบเคสไอดี T680307xxxx ข่มขู่ทางโทรศัพท์ให้เกิดความกลัว และหลอกให้โอนเงิน สภ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 7 มี.ค.2568 เวลา 21.03 น. โดยผู้เสียหายเเจ้งว่า ถูกหลอกลวงลักษณะข่มขู่ทางโทรศัพท์ให้เกิดความกลัวแล้วหลอกให้โอนเงิน โดยพฤติการณ์คือมีเบอร์แปลก ติดต่อเข้ามาช่วงเวลา 16.05 น. แจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แห่งหนึ่ง อ้างว่ามีคนเอาชื่อผู้เสียหายไปเปิดหมายเลขโทรศัพท์มือถือ จากนั้นจะโอนสายให้ตำรวจ โดยผู้เสียหายได้ข้อมูลว่า ผู้เสียหายเปิดบัญชีม้าเพื่อฟอกเงินจึงให้มีการโอนเงินไปตรวจสอบและแจ้งว่าจะโอนคืนให้ ต่อมาผู้เสียหายตรวจสอบจึงพบว่าเป็นมิจฉาชีพ มูลค่าความเสียหายรวมโดยประมาณ 13,402 บาท



ต่อมาชุดสืบสวน ตรวจสอบข้อมูลระบบรับแจ้งความออนไลน์ พบมีความเชื่อมโยงกับเคสไอดีอีก 6 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 100,000 บาท จึงขยายผล ก่อนทราบชื่อผู้เช่าห้องพักภายหลังชื่อ นาย I LIU PEI สัญชาติไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้ขอติดตั้งสัญญาณอินเทอร์เน็ตในห้องเช่า จึงนำไปสู่การตรวจค้นตรวจยึดของกลาง และนำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

พล.ต.ต.วรชาติ ผบก.สส.ภ.1 เปิดเผยว่า จากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่าห้องเช่าดังกล่าว มีชายชาวไต้หวันเป็นผู้เช่าห้อง ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว มีความผิดฐาน “ร่วมกันทำ มีใช้ นำเข้า นำออกหรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต , ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต”