ปวีณาฯ ช่วย 4 สาวไทย ถูกหลอกอุ้มบุญ ที่ จอร์เจียร์ นรกบนดิน

นรกบนดิน! ปวีณาฯ ช่วย 4 สาวไทย ถูกหลอกอุ้มบุญ ที่ จอร์เจียร์ บังคับขายไข่ ฉีดยา ดูดไข่ทุกเดือน มีหญิงไทยนับ 100 ชีวิต ตกเป็นเหยื่อ

แฉขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ! หลอกสาวไทยไปขายไข่ ในจอร์เจีย ผสมเทียมสร้างเด็กขาย ส่งไปที่จีน

วันนี้ 3 กุมภาพันธ์ 2568 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้แถลงข่าว ขบวนการแก๊งจีนเทา หลอกสาวไทย นับ 100 ชีวิต ไปอุ้มบุญที่ ประเทศจอร์เจีย แต่ความจริงถูกขังในบ้านแออัด อดอยาก บังคับให้ฉีดยา ขายไข่ออน เพื่อส่งไปทำเด็กหลอดแก้วที่ประเทศจีน หากใครไม่ทำตามคำสั่ง มักถูกข่มขู่ตัดนิ้ว

อีจัน ได้คุยกับ ผู้เสียหาย เล่าว่า เธอเป็นเซลล์ขายของแต่รายได้ไม่พอใช้ เพราะว่ามีลูก 1 คน อยากหาอาชีพเสริมช่วยสามีใช้หนี้ ช่วงเดือน ก.ค. 67 เธอได้หางานในโซเชียล โดยค้นหาคำว่า “หางานทำในบ้าน หางานต่างประเทศ” ไปเจองาน บอกว่า เป็นงานอุ้มบุญ ให้คู่สามีภรรยาต่างชาติ ที่มีลูกยาก ได้เงินประมาณ 500,000 บาท มีที่พัก มีคนดูแล และเป็นงานที่ถูกกฎหมายในประเทศจอร์เจีย

เธอสนใจเพราะอยากหาเงินใช้หนี้ และไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย ทั้งการทำพลาสปอร์ตและค่าเดินทาง ซึ่งมีแอดมินเป็นคนไทย พาไปทำพลาสปอร์ต

เธอโกหกสามีและลูกว่า ไปทำงานต่างประเทศ ไม่ได้บอกว่า ไปอุ้มบุญ ที่เธอโกหก เพราะอยากหาเงินมาใช้ อยากทำให้ครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้น

จนกระทั่ง วันที่ 30 สิงหาคม 2567 แอดมิน นัดให้เธอไปขึ้นเครื่องที่สนามบินอู่ตะเภา พอไปถึงพบว่า มีสาวไทยที่ร่วมเดินทางไปด้วย อีก 10 คน และมีคนนำพาเป็นสาวไทย 1 คน รวมทั้งหมด 12 คน แต่ละคนไม่รู้จักกัน

จากนั้น คนที่พาไป ให้เงินติดตัวคนละ 500 ดอลลาร์ ตีเป็นเงินไทย ประมาณ 15,000 บาท บอกว่าให้เอาไว้โชว์เวลาที่ เจ้าหน้าที่ ตม. ตรวจ

โดยเครื่องบินไปลงที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรต ก่อนจะเปลี่ยนเครื่องบิน ไปลงที่ประเทศอาร์มีเนีย นอนค้างโรงแรม 3 คืน และพาไปที่ต่างๆ เพื่อถ่ายรูป หลังจากนั้น วันที่ 4 นั่งรถไฟเข้าประเทศจอร์เจีย ใช้เวลาประมาณ 10 กว่าชั่วโมง

พอไปถึง ประเทศจอร์เจีย ถูกยึดพาสปอร์ต พาอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง 4 ชั้น พบว่าในบ้าน มีสาวไทยประมาณ 60 คน ถึงรู้ความจริงว่า ไม่ใช่งานอุ้มบุญ แต่เป็นงาน บังคับขายไข่ เพื่อส่งไปทำเด็กหลอดแก้ว ที่ประเทศจีน โดยมีแก๊งคนจีน และผู้ไทย 1 คน ที่ควบคุมดูแล

พฤติกรรมโหด ขบวนการนี้ จะบังคับให้ฉีดยาบำรุง และพาไปดูดไข่ทุกเดือน โดยใช้ยาสลบ เธอเห็นผู้หญิงหลายคน ที่ถูกดูดไข่ อยู่ในสภาพโทรม เธอเลยต้องทำตัวเองให้ป่วย เพราะถ้าป่วย แก๊งนี้ไม่เข้ามายุ่งเลย

เธอ เล่าอีกว่า 9 วัน เหมือนอยู่ในนรก ถูกจำกัดพื้นที่ มีแค่ข้าวกับไข่ต้มให้กิน ถ้าใครไม่ทำตาม จะถูกข่มขู่ตัดนิ้ว และใช้กฏหมายมาขู่ ถ้าไปแจ้งความ พวกเธอจะถูกจับ ทำให้พวกเธอกลัว

เธอตัดสินใจ เอาเงินเก็บที่ติดตัวมา และหายืมคนอื่น จนได้เงิน 70,000 บาท เพื่อขอกลับบ้าน พร้อมขู่แก๊งจีนเทาว่า ถ้าไม่ให้กลับบ้าน เธอจะกระโดดตึกตาย จนแก๊งจีนเทา ให้เธอกลับมาที่ไทย วันที่ 9 กันยายน 2567

พอเธอกลับมาไทย จึงรีบติดต่อขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณาฯ เพราะยังมีหญิงไทยอีก 3 คน อยากกลับบ้าน

เธอ เล่าอีกว่า รู้สึกอึดอัดบอกใครก็ไม่ได้ อยากไปทำงานหาเงินปลดหนี้ แต่ไปหาหนี้เพิ่ม ถึงแม้ตอนนี้เธอจะกลับมาไทยแล้ว แต่ก็ไม่ได้บอกใคร อยากขอโทษสามี กับลูก

หลังมูลนิธิปวีณาฯ ได้รับเรื่องใช้เวลา 2-3 เดือน ในการช่วยเหลือสาวไทยอีก 3 คน

โดยประสานตำรวจสากลระหว่างประเทศ จนสามารถนำสาวไทย อีก 3 คน ออกมาจากบ้านของแก๊งจีนเทาในประเทศจอร์เจีย พาไปอยู่บ้านพัก ก่อนส่งตัวกลับไทย เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่ง
นางปวีณาได้เดินทางไปรับที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยตัวเอง

ขณะนี้ผู้เสียหายทั้ง 4 ราย อยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณา จนกว่าจะปลอดภัย

นางปวีณา เปิดเผยว่า ที่ประเทศจอร์เจีย ไม่มีสถานทูตไทย อยากขอบคุณตำรวจาไทย ที่พาผู้เสียหาย 3 คน กลับมาประเทศไทยได้สำเร็จ

แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่า จะมีหน่วยไหนของรัฐบาล เข้ามาช่วยเหลือ เพราะผู้เสียหาย 3 คน ที่กลับไทย ทางมูลนิธิปวีณาฯ ออกค่าเดินทางให้ ซึ่งยังมีสาวไทย อีกเกือบ 100 ชีวิต ที่อยากกลับไทย

และเตือนภัยสาวไทย อย่าหลงเชื่อโพสต์หางานต่างประเทศง่ายๆ ไม่เช่นนั้นอาจต้องกลายเป็นเหยื่อของแก๊งค้าไข่เถื่อน