CIB รวบ 2 จนท. กรมทางหลวง ลักไก่ค่าเวนคืนที่ดินเชียงดาวจากชาวบ้าน  

ตำรวจสอบสวนกลาง เข้าจับกุม 2 เจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ขบวนลักไก่ค่าเวนคืนที่ดินเชียงดาว ฐานทุจริตเงินค่าเวนคืนที่ดินจากชาวบ้าน

สุดท้ายก็ไม่รอด! บุกจับ จนท. กรมทางหลวง ลักไก่ค่าเวนคืนที่ดินเชียงดาวจากชาวบ้าน 

วันนี้ (20 มี.ค.68) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมคณะร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) ได้มอบหมายให้ นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ, นายนิรันดร  ศรีภักดี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเชียงใหม่และนายไพโรจน์  นิยมเดชา ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 ร่วมกันสืบสวนจับกุม และ แจ้งข้อกล่าวหาข้าราชการพลเรือน สังกัดสำนักงานทางหลวงที่ 1 (เชียงใหม่) จำนวน 2 ราย ดังนี้ 

1. นายปารย์ฯ หรือ ปลาย อายุ 39 ปี  

2. นายชญานนท์ฯ อายุ 24 ปี  

โดยทั้ง 2 ราย เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5  

ผู้ต้องหาลำดับที่ 1 กระทำความผิดฐาน“เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ,เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต”  

ผู้ต้องหาลำดับที่ 2 ผิดฐาน “สนับสนุนเจ้าพนักงาน เรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และสนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” 

ซึ่งเหตุเกิดที่ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ต่อเนื่องกับ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างปลายเดือน ธ.ค. ปี 67 ถึงวันที่ 26 ก.พ. 68  สถานที่จับกุมและแจ้งข้อกล่าวหา สำนักงานทางหลวงที่ 1 เชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่  

สืบเนื่องจาก บก.ปปป. ได้ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ช. และสำนักงาน ป.ป.ท. รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนในพื้นที่อำเภอเชียงดาว เกี่ยวกับพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่สังกัดสำนักงานทางหลวงที่ 1 (เชียงใหม่) กรมทางหลวง ว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์จากประชาชนที่ถูกเวนคืนที่ดินในโครงการขยายถนนหมายเลข 1359 อ.เชียงดาว โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานทางหลวงที่ 1 (เชียงใหม่) ออกอุบายแจ้งค่าเวนคืนที่ดินเพียง 75% ของจำนวนเงินค่าเวนคืนที่ดินที่จะได้รับ และ อ้างว่าจะช่วยเพิ่มค่าเวนคืนที่ดินให้อีก 25% ทั้งที่ผู้ที่ถูกเวนคืนที่ดินมีสิทธิได้รับค่าเวนคืนเต็มจำนวนตั้งแต่ต้นอยู่แล้วและได้เรียกรับเงินจากผู้ที่ถูกเวนคืนที่ดินในอัตราประมาณ 10% ของค่าเวนคืนที่จะได้รับ โดยอ้างว่าเป็นค่าช่วยเหลือในการเพิ่มค่าเวนคืนที่ดินดังกล่าวให้ ทำให้ประชาชนที่ถูกเวนคืนที่ดินจำนวนหลายรายต้องยินยอมจ่ายเงินให้แก่เจ้าหน้าที่สำนักงานทางหลวงที่ 1 (เชียงใหม่) เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับการประเมินค่าเวนคืนที่ดินในอัตราที่ต่ำ และเห็นว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและทำให้ได้รับความเสียหาย จึงได้แจ้งเบาะแสเรื่องดังกล่าวต่อสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเชียงใหม่เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมาย  

เจ้าหน้าที่ บก.ปปป. จึงร่วมกับฝ่ายสืบสวนของสำนักงาน ป.ป.ช. และ สำนักงาน ป.ป.ท. รวบรวมพยานหลักฐาน พบว่า กรณีดังกล่าวมีการกระทำอย่างเป็นกระบวนการ มีการแบ่งหน้าที่กันทำโดยมีการนัดหมายให้ผู้ที่ถูกเวนคืนที่ดินมารับเช็กค่าเวนคืนที่ดินที่แขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 3 ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการดังกล่าว ในพื้นที่อำเภอเชียงดาว เมื่อรับเช็กแล้วเจ้าหน้าที่ของสำนักงานทางหลวงที่ 1 (เชียงใหม่) ได้แจ้งให้นำเช็กไปฝากเข้าบัญชีเงินฝากที่สถาบันการเงิน โดยมีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานทางหลวงที่ 1 คอยเฝ้าติดตามอยู่ตลอดระยะเวลาที่ทำธุรกรรม รวมทั้งให้ถอนเงินสดมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ที่ติดตามไป และได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง จำนวน 2 รายดังกล่าว ซึ่งได้เข้าจับกุมตัวที่สำนักงานทางหลวงที่ 1 (เชียงใหม่) พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้บุคคลตามหมายจับทราบ และ ดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้สูญหาย ปี 66 โดยควบคุมตัวไปทำบันทึกการจับและส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา 

 หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม จะรายงานให้ทราบอีกครั้งค่ะ