เงินมันคม คนเลยเหลี่ยม!
วันนี้ (3 ก.พ.68) มีรายงานว่า ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้ร่วมกันจับกุม น.ส.อรทัย อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 626/2563 ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “อั้งยี่, ซ่องโจร, มีส่วนรวมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันฟอกเงิน”
โดยจับกุมได้ที่ บริเวณห้องผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ม.3 ต.คลองหลา อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา
สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปี 2560 ผู้ต้องหาได้เดินทางไปทำงานที่ร้านนวดในประเทศมาเลเซีย และได้พบรักกับหนุ่มผิวสีชาวไนจีเรีย ผ่านการแนะนำของเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน จากนั้นแฟนหนุ่มชาวไนจีเรียได้รับผู้ต้องหามาอยู่ด้วยกันและได้ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายทุกอย่าง โดยที่ผู้ต้องหาไม่ต้องทำงาน ซึ่งระหว่างอยู่ด้วยกัน ผู้ต้องหาทราบว่า แฟนหนุ่มสนใจจะเปิดบริษัทในประเทศไทย หลังจากอยู่ด้วยกันเกือบ 2 ปี แฟนหนุ่มชาวไนจีเรีย ได้ชักชวนให้ผู้ต้องหาเปิดบัญชีให้ เพื่อทำธุรกรรมทางการเงินโดยให้เหตุผลว่า ตนเองเป็นชาวต่างชาติไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินในประเทศไทยได้ โดยจะได้รับค่าตอบแทนในการเปิดบัญชี บัญชีละ 6,500 บาท
ซึ่งผู้ต้องหาก็ได้ทำการเปิดบัญชีไว้หลายบัญชี จากนั้นมอบบัญชีให้แฟนหนุ่มชาวไนจีเรียเป็นผู้ดำเนินการ ฝาก-ถอน ทั้งหมด ซึ่งจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าบัญชีธนาคารที่ผู้ต้องหาได้เปิดให้กับแฟนชาวไนจีเรีย เป็นบัญชีธนาคารที่มีเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับบริษัทที่มีการรับโอนเงินเกี่ยวข้องกับคดีของนางสาวชมานันทน์ กับพวกร่วมกันลักทรัพย์เอาเงินของบริษัทอื่น โดยที่มีการลักลอบโอนเงินจากบัญชีเงินฝากของบริษัทดังกล่าวจำนวนหลายครั้ง ทำให้บริษัทดังกล่าว ได้รับความเสียหายเป็นเงิน 6,223,872,674.31 บาท จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปทำงานอยู่ที่ประเทศมาเลเซียและทราบว่า ผู้ต้องหาจะเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อเยี่ยมลูก ซึ่งเดินทางจากประเทศมาเลเซีย มายังท่าอากาศยานหาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผนจับกุมและได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองด่าน ตม.ทอ.หาดใหญ่ เฝ้าสังเกตุการณ์บริเวณห้องผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ
กระทั่ง เวลาประมาณ 15.25 น. เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองด่าน ตม.ทอ.หาดใหญ่ ได้พบผู้ต้องหา จึงขอดูหนังสือเดินทาง พบว่าเป็นผู้ต้องหาจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวและแสดงหมายจับให้ผู้ต้องหาทราบ ผู้ต้องหายอมรับว่า เป็นบุคคลตามหมายจับจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาและนำส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
หากมีความคืบหน้าจะอัปเดตให้ทราบ