
วันนี้ (26 ก.พ. 68) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำกำลังเข้าจับกุม นายสุรเชษฐ์ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ , เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่น ใช้บัญชีเงินฝาก หรือ บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือกิจการที่เกี่ยวข้องหรือยินยอมให้บุคคลอื่น”
โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณวัดแห่งหนึ่ง พื้นที่ ม.3 ต.บ้านกลาง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี

สืบเนื่องจากช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ.2567 มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บ้านยางชุม จ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา โดยผู้เสียหายให้การว่า ผู้ต้องหากับพวก ได้ร่วมกันฉ้อโกงผู้เสียหาย โดยปกปิดว่าจะให้กู้เงิน แต่กลับถูกหลอกให้โอนเงินไป (เหตุเกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ.2566) จนสูญเสียเงินไปหลายหมื่นบาท จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินดคีจนถึงที่สุด

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการสืบสวนจนพบว่า นายสุรเชษฐ์ (ผู้ต้องหา) ได้หลบหนีมาอยู่ในพื้นที่ ม.3 ต.บ้านกลาง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี และทราบว่านายสุรเชษฐ์ จะเดินทางออกไปทำงานช่วงเช้าทุกวัน จึงไปตรวจสอบพบนายสุรเชษฐ์ ขับรถจักรยานยนต์ผ่านบริเวณวัดแห่งหนึ่ง ม.3 ต.บ้านกลาง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี จึงทำการจับกุมตัวและแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมทั้งแจ้งสิทธิ ให้นายสุรเชษฐ์ฯ ทราบ และเชิญตัวมาทำบันทึกที่ สภ.สวนพริกไทย จ.ปทุมธานี จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านยางชุม จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อดำเนินคดีต่อไป

หลังการจับกุม พบว่าผู้ต้องหาเป็น “ตัวการใหญ่” ในการเปิดบัญชีม้า โดยนำบัญชีเจ้าตัวเกือบ 10 บัญชี ไปขายต่อ ในราคา 10,000 บาทต่อบัญชี และยังใช้กลอุบายให้ชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เปิดบัญชีให้อีกจำนวนมาก โดยบัญชีทั้งหมดจะถูกนำไปให้ผู้ว่าจ้างจากประเทศเพื่อนบ้าน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การว่าเป็นบุคคลตามหมายจับนี้จริง สารภาพว่ารับซื้อบัญชีจากชาวบ้าน ส่งขายให้ชาวกัมพูชา ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัว เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป