จากกรณีเมื่อวันที่ (29 ม.ค. 68) นายนราวิชญ์ หรือ ติว อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขา โลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ได้ถูกคนร้าย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ สวมหมวกกันน็อค ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิง ขณะเดินบนทางเดินหน้าคณะเภสัช ถนนพญาไท แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ กระทั่งนายนราวิชญ์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำส่งโรงพยาบาล เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น.
ต่อมา พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนนครบาล ชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.6 และ ชุดสืบสวน สน.ปทุมวัน รวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนสมบูรณ์กว่า 1 เดือน ก่อนมอบให้พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ พิจารณาออกหมายจับ โดยศาลพิจารณาออกหมายจับ 10 คน ได้แก่
นายธนดล หรือ นุ (มือยิง) อายุ 25 ปี , นายเกียรติศักดิ์ หรือ โต (อายุ 21 ปี) , นายภัทรวรรธน์ หรือ บอล (อายุ 21 ปี) และ นายอาดิล หรือ ดิล (อายุ 20 ปี) ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ” ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ”
นายกรกนก หรือ หยก (อายุ 24 ปี) , นายธีรยุทธ หรือ ปอนด์ (อายุ 22 ปี) , นายกิจชนะ หรือ บูม (อายุ 22 ปี) และนายพีระพัฒน์ หรือ กาย (อายุ 21 ปี) ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ” สนับสนุนในความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
นายปฏิพัทธ์ หรือ นิว (อายุ 21 ปี) และนายอัษฎาวุธ หรือ เวฟ (อายุ 20 ปี) ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ” ให้การช่วยเหลือผู้อื่นซึ่งได้กระทำความผิดอาญา เพื่อให้พ้นจากการถูกลงโทษ หรือได้รับโทษน้อยลง ”
วันนี้ (5 มี.ค. 68) พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. พร้อมชุดสืบสวนนครบาล , ชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.6 และ ชุดสืบสวน สน.ปทุมวัน นำหมายค้นเข้าตรวจค้นหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพฯ และติดตามจับผู้ต้องหาทั้ง 10 คน ซึ่งปัจจุบันยังเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ของสถาบันแห่งหนึ่ง
การจับครั้งนี้ สืบเนื่องจากหลังเกิดเหตุกับนายนราวิชญ์ อายุ 19 ปี ชุดสืบสวนได้ข้อมูลจากพยานให้ปากคำว่าก่อนที่นายนราวิชญ์ ถูกยิงวันที่ 29 ม.ค.2568 พยานและเพื่อนถูกชาย 2 คน แต่งกายมิดชิดสวมหมวกกันน็อคปิดบังใบหน้า ขับขี่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นแกรนด์ฟิราโน่ แล้วทำท่าเหมือนหยิบอาวุธจึงหลบหนีเข้าไปในมหาวิทยาลัย จนกระทั่งวันรุ่งขึ้นนายนราวิชญ์ ก็ถูกยิงโดยตำหนิรูปพรรณรถจักรยานยนต์ใกล้เคียงกัน จากนั้นชุดสืบสวนตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าการก่อเหตุมีการวางแผนแบ่งหน้าที่กันทั้งชี้เป้า ทั้งส่งสัญญาณและทำหน้าที่ซ่อนรถซ่อนปืน โดยผู้ก่อเหตุได้จอดรถจักรยานยนต์รอบริเวณสะพานหัวช้าง
จากนั้นชุดสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์นำไปสู่การพิสูจน์บุคคลและพฤติการณ์อย่างชัดเจน และนำไปสู่การขอออกหมายจับ