ครอบครัว พลทหาร เสียชีวิต ปริศนา ไม่เชื่อ ว่าลูกจะ คิดสั้น ปลิดชีพ ตัวเอง

(8 พฤศจิกายน 2563) ดูเหมือนว่าเรื่อง พลทหาร ดับปริศนาคาห้องน้ำ ค่ายทหาร จ.ร้อยเอ็ด จะไม่จบง่ายๆ เพราะเมื่อเวลา 09.30 น. ที่สำนักงานทนายคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นางหนูไกล บุญวิเศษ อายุ 44 ปี แม่ของ พลทหารพิชวัฒน์ เวียงนนท์ ผู้เสียชีวิต พาครอบครัวเดินทางเข้าพบ ทนาย รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อปรึกษาหารือแนวทางดำเนินคดีทางกฎหมายเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว

นางหนูไกล กล่าวว่า มีหลายเรื่องที่ยังติดใจ เพราะ หลังจากรับแจ้งว่าลูกที่ เสียชีวิต ไปแล้วทางครอบครัวขอไปดูศพ แต่ถูกบ่ายเบี่ยง และไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปดูศพลูก ซึ่งตนได้มาเห็นสภาพศพจากทางโซเชียล พบว่า มีรอยเขียวช้ำหลายจุด และที่คอมีรอยรัดจากเชือก ถึงขั้นเกือบขาด และ เสียชีวิต ซึ่งขายังจุ่มอยู่ในอ่างน้ำ และชุดที่ลูกชายใส่เป็นวันเดียวกับที่ทหารพาตัวกลับไปที่ค่าย ซึ่งตนยอมรับว่าลูกหนีออกมาจาก ค่ายทหาร จริง เพราะอยากออกมาลอยกระทงกับแฟน และลูกชายเคยโทรมาบอกกับตนว่า เคยถูกครูฝึกซ้อมบ่อยมากและถูกนำพริกและเกลือมาทาหลัง เหยียบหัว ตัดผม และโดนตบ

ตนเคยถาม ครูฝึก ว่าทำไมต้องทำขนาดนี้ ครูฝึก ยอมรับที่ตบเพราะดื้อ คนอย่างลูกชาย ถ้าเอาไปยิงเป้าทิ้ง ก็ไม่เสียดาย ตนไม่คิดเลยว่าลูกจะมา เสียชีวิต ในเหตุการณ์แบบนี้ จึงเดินทางมาพบทนายรณรงค์เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับลูกชาย และยังคงติดใจในเรื่องการ เสียชีวิต ว่าเป็นการฆาตกรรมอำพรางหรือไม่ ตนได้ถามไปที่ผู้บังคับบัญชา แต่ถูกตัดสายทิ้ง จึงถามว่าเชือกไปอยู่ในห้องน้ำได้ยังไง ซึ่งผู้บังคับบัญชาบอกกับตนว่า เชือกเอาไว้ผูกกับข้าวกิน และครั้งที่ 2 พูดว่า นำเชือกไปทำราวตากผ้า จึงไม่เข้าใจ เพราะว่าตอบไม่เหมือนกัน

ทาง ค่ายทหาร ไม่มีการฉีดยารักษาสภาพศพ ตนคิดว่าคงอยากให้ศพเน่าเร็วขึ้นหรือไม่ เพราะเวลาเอาไปชันสูตรอาจจะไม่พบหลักฐานหรือบาดแผลเพิ่มเติม

ด้านทนายรณรงค์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องไว้ พรุ่งนี้ (9 พฤศจิกายน 2563) จะพาครอบครัวของผู้ตายไปที่กองบังคับปราบปราม ให้กองปราบปรามเป็นคนทำคดี และจะประสานขอภาพกล้องวงจรปิดทุกจุดในค่ายต่อไป