![](https://files.ejan.co/wp-content/uploads/2025/02/1739171437_312654-ejan-768x402.jpg)
วันนี้ (10 ก.พ.68) คณะตำรวจไซเบอร์ นำกำลังเข้าจับกุม 4 แฮกเกอร์ชาวต่างชาติ ใช้มัลแวร์เรียกค่าไถ่ โดยนำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 4 จุด ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต
![](https://files.ejan.co/wp-content/uploads/2025/02/1739171501_390234-ejan-1024x650.jpg)
โดยจุดแรกตำรวจเข้าค้นห้องพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต , จุดที่ 2 เข้าค้นห้องพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง , จุดที่ 3 ห้องพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต และจุดที่ 4 ค้นห้องพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมืองภูเก็ต โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 4 ราย ซึ่งเป็นชายชาวต่างชาติทั้งหมด
เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมผู้ต้องหา พร้อมตรวจยึดของกลาง ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ โน๊ตบุ๊กและกระเป๋าดิจิทัลวอลเล็ต รวมกว่า 40 รายการ ในความผิดฐาน “สมคบคิดเพื่อการกระทำความผิดทางกฎหมายต่อประเทศสหรัฐอเมริกา (Conspiracy to Commit an Offense Against the United States) และสมคบคิดเพื่อกระทำการฉ้อโกงทางสายสื่อสาร (Conspiracy to Commit Wire Fraud)”
![](https://files.ejan.co/wp-content/uploads/2025/02/1739171510_989891-ejan-1024x650.jpg)
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า สำหรับในคดีนี้ สืบเนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีสั่งการตามหนังสือ ตท.ด่วนที่สุด เรื่อง ทางการสมาพันธรัฐสวิส ขอให้ส่งตัวผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดน มีรูปแบบเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และขอความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา ซึ่งทางการสหรัฐอเมริกา และทางการสมาพันธรัฐสวิส ประสานขอความร่วมมือระหว่างประเทศ เรื่อง ขอตัวบุคคลซึ่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดน และความร่วมมือระหว่างประเทศทางอาญามายังประเทศไทย ให้ช่วยตรวจสอบ และหาพยานหลักฐานของกลุ่มผู้ต้องหาชาวต่างชาติชาวยุโรป จำนวน 4 ราย โดยมีหมายจับของตำรวจสากล ซึ่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย มีรูปแบบเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
![](https://files.ejan.co/wp-content/uploads/2025/02/1739171519_599942-ejan-1024x650.jpg)
ซึ่งผู้ต้องหากลุ่มนี้ ได้ใช้แรนซัมแวร์จู่โจมบริษัทผู้เสียหายในสวิตเซอร์แลนด์กว่า 17 บริษัท ในช่วงระหว่างวันที่ 30 เม.ย.2566 จนถึงวันที่ 26 ต.ค.2567 โดยมีการเข้าถึงข้อมูลสำคัญหลายอย่าง ในเครือข่ายของผู้เสียหายโดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งมีการทำสำเนาและโจรกรรมข้อมูลจากการเข้าถึงคอมพิวเตอร์ของผู้เสียหาย โดยใช้มัลแวร์เรียกค่าไถ่ Phobos เพื่อแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลเข้ารหัสไฟล์ของผู้เสียหาย
จากนั้นจึงวางไฟล์ขู่เรียกค่าไถ่ไว้ในคอมพิวเตอร์ โดยให้ผู้เสียหายติดต่อเพื่อจ่ายค่าไถ่เป็นสกุลเงินดิจิทัล เพื่อแลกกับคีย์สำหรับถอดรหัส หากผู้เสียหายปฏิเสธการจ่ายเงิน ทางกลุ่มผู้ต้องหามักจะติดตามการโจมตีด้วยการส่งอีเมลหรือโทรศัพท์ข่มขู่กรรโชก ว่าจะขายหรือเปิดเผยข้อมูลของเหยื่อ
นอกจากนี้กลุ่มผู้ต้องหายังมีการ Ming-Service สกุลเงินดิจิทัลเพื่อขัดขวางการติดตามย้อนกลับการทำธุรกรรมบนบล็อกเชนอีกด้วย ซึ่งพบว่ามีผู้เสียหายทั่วโลกกว่า 1,000 ราย และมีมูลค่าความเสียหายกว่า 16 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 560 ล้านบาท
จึงสั่งการให้ตำรวจไซเบอร์สืบสวนขยายผล ทราบว่ากลุ่มคนร้ายได้พักกบดานอยู่ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ก่อนสนธิกำลังบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจภูธรภาค 8 เข้าตรวจค้นที่พักและจับตัวพร้อมของกลางที่ตรวจยึดไว้ได้ทั้งหมด