ตร.เร่งล่า “ไอ้เคี่ยม” ลูกทรพีทาสยานรก ฆ่าได้แม้กระทั่ง “แม่” ตัวเอง แม่นอนตายจมกองเลือด ไม่สลด ถ่ายศพแม่โพสต์โชว์ เย้ยเป็นยมบาล
เมื่อวานนี้ (1 มี.ค. 68) ร.ต.อ.สุวิทย์ สุวรรณราช รอง สว. (สอบสวน) สภ.ย่านตาขาว ได้รับแจ้งเหตุพบศพหญิงเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านหลังหนึ่ง ในเขตบ้านเกาะแต้ว ต.เกาะเปียะ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย กำลังตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง และหน่วยกู้ชีพสมาคมกู้ชีพร่วมใจย่านตาขาว
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในห้องโถงกลางบ้าน บริเวณหน้าห้องน้ำ พบศพนางสุดารัตน์ หรือป้าติ๋ม อายุ 46 ปีอาชีพค้าขาย นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดเสียชีวิต ในสภาพสวมเสื้อยืด ทับด้วยเสื้อแจ็คเก็ต คาดผ้ากันเปื้อน นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว สวมถุงเท้า โดยถุงเท้าด้านขวาถอดอยู่ครึ่งเท้า ใกล้กันพบแว่นตา ไม้คาดผม และรองเท้าตกอยู่ 1 คู่ พลิกศพพบมีบาดแผลถูกกระแทกอย่างรุนแรง ทำให้กะโหลกศีรษะซ้ายแตกและยุบ ใต้ตาซ้ายมีบาดแผลแตก เบื้องต้นน่าจะเสียชีวิตมาแล้วเป็นระยะเวลาประมาณ 1 วัน
สอบถามพยาน ในที่เกิดเหตุ ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายณัฐพล หรือเคี่ยม อายุ 28 ปี ลูกชายคนโตของผู้ตาย
วันที่ 28 ก.พ. 68 ที่ผ่านมา ไอ้เคี่ยมได้เข้ามาขอเงินแม่เพื่อจะนำไปซื้อยาเสพติดมาเสพ แต่ปรากฏว่าด้วยความเหนื่อยและอดทนกับพฤติกรรมของลูกชายมานาน แม่จึงไม่ให้และบ่นสั่งสอน ส่วนไอ้เคี่ยม คลั่งยาหนัก ไม่พอใจทำร้ายแม่จนถึงแก่ชีวิต
หลังก่อเหตุสลด ไอ้เคี่ยมเหมือนจะไม่สลด ถ่ายภาพศพแม่ โพสต์เย้ยลงเฟซบุ๊ก อ้างเป็นยมบาล ก่อนขโมยเงินและขับรถมอเตอร์ไซค์ของแม่ บี่งหนีไป ขระนี้ตำรวจยังเร่งไล่กล้องวงจรปิด เก็บข้อมูล และล่าตัวไอ้เคี่ยม มารับกรรมที่ตนเองก่อ
สอบถาม น.ส.สุธาทิพย์ อายุ 23 ปี ลูกสาวคนสุดท้องของผู้ตาย เล่าว่า แม่มีลูกทั้งหมด 4 คน ผู้ก่อเหตุเป็นลูกชายคนโต บ้านหลังนี้แม่อยู่กับพี่ที่ลงมือก่อเหตุ 2 คน ซึ่งพี่ชายเสพยาเสพติด ไม่ประกอบอาชีพ ส่วนแม่อาชีพค้าขายผักผลไม้ตามตลาดนัด เมื่อคืนที่ผ่านมา (28 ก.พ. 68) ได้โทรมาหาแม่แต่ปรากฏว่าแม่ไม่รับสาย โทรหาเพื่อนแม่ ก็ไม่มีใครรู้ วันรุ่งขึ้นจึงได้รีบกลับมาหาแม่ที่บ้าน เจอร่างแม่ที่ไร้ลมหายใน นอนจมกองเลือดอยู่อย่างนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าพี่ชายเป็นคนลงมือฆ่าแม่ เพราะที่ผ่านมาพี่ชายหลอนยาเสพติดทำร้ายแม่มาหลายครั้ง เคยมีประวัติคลุ้มคลั่ง จุดไฟเผาบ้าน ทำร้ายคนในครอบครัวและเคยถูกจำคุกในคดียาเสพติดและวางเพลิงเผาทรัพย์
น้องสาวเล่าอีกว่า แม่รักพี่ชายมาก ทุกวันจะจัดหาข้าวน้ำไว้ให้กินทุกวัน แต่ก็มาก่อเหตุแบบนี้กับแม่
ทางด้าน นายสมใจ อายุ 70 ปี พ่อผู้เสียชีวิต กล่าวพร้อมน้ำตาว่า ตนรู้สึกรับไม่ได้กับเหตุการณ์นี้ ตั้งแต่เลี้ยงลูกมา ไม่เคยตีลูกเลยสักครั้ง มาวันนี้หลานทำแบบนี้ได้ลงคอ ต่อไปไม่เอาหลานคนนี้แล้ว และอยากให้ตำรวจเร่งจับกุมตัวให้ได้เพราะกลัวว่าจะไปทำอันตรายกับคนอื่น
ล่าสุด วันที่ 2 มี.ค.68 เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ได้โพสต์อัปเดตว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ได้ควบคุมตัว นายณัฐพล หรือ เคี่ยม ได้แล้ว
โดยนายเคี่ยม ได้ขับรถย้อนกลับลงมาในพื้นที่ จ.นครปฐม เข้าด่านตรวจจราจรของ สภ.เมืองนครปฐม ที่กำลังตั้งด่านอยู่ จนท.เรียกให้จอด เนื่องจากนายเคี่ยม ไม่สวมหมวกกันน็อก และจะดำเนินการเปรียบเทียบปรับในความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร แต่ปรากฏว่า นายเคี่ยม ไม่มีเงินที่จะจ่ายค่าปรับ และพูดจาวกวน ประกอบกับรถที่ขับเป็นป้าย จ.ตรัง จึงเป็นที่สังเกตของตำรวจ จนต่อมาสืบทราบว่า นายเคี่ยม คือผู้ที่ก่อเหตุฆ่าแม่ตัวเอง หลบหนีมาจาก จ.ตรัง จึงได้ควบคุมตัว และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจใน จ.ตรัง
จากการสอบสวน นายเคี่ยม เบื้องต้นยังให้การวกวน ทราบว่า เมื่อคืนอยู่ที่ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เพื่อจะไป จ.ตราด แต่เจ้าตัวไม่รู้จักเส้นทาง จึงได้ขับรถวกไปวนมา จนกระทั่งมาจนมุมที่ จ.นครปฐมดังกล่าว
เบื้องต้นทาง พ.ต.ท.เชษฐ์ เพชรชู สว.สส.สภ.ย่านตาขาว พื้นที่เกิดเหตุ อยู่ระหว่างนำกำลังเดินทางขึ้นมารับตัว นายเคี่ยม มาสอบสวนอย่างละเอียด พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย