
ไหวพริบของตำรวจจราจร สภ.เมืองนครปฐม เห็นชายคนหนึ่งไม่สวมหมวกกันน๊อค ท่าทางเหมือนคนเสพยา จึงเรียกให้หยุดตรวจก่อนพาไปสถานีตำรวจ สุดท้ายชายคนนี้คือคนร้ายที่ทำร้ายแม่เสียชีวิตแล้วโพสต์ภาพข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวก่อนหลบหนี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ความโหดร้ายของนายณัฐพล หรือเคี่ยม อายุ 28 ปี หลังก่อเหตุทำร้ายแม่บังเกิดเกล้าเสียชีวิต โดยตำรวจ สภ.ย่านตาขาว จ.ตรัง รับแจ้งเหตุพบร่างในบ้านพัก เมื่อวันที่ 1 มี.ค.2568 หลังเกิดเหตุพยานแวดล้อมให้ข้อมูลกับตำรวจว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นนายณัฐพล หรือเคี่ยม ลูกชายของผู้เสียชีวิต
หลักฐานสำคัญที่ทำให้ตำรวจเชื่อได้ว่านายณัฐพล เป็นผู้ก่อเหตุคือ ภาพของผู้เสียชีวิตในสภาพนอนคว่ำหน้า และข้อความถูกโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายณัฐพล !!

ชุดสืบสวน สภ.ย่านตาขาว ไล่ล่าหาตัวนายณัฐพล ทั้งวันทั้งคืนทราบว่า หลังเกิดเหตุโดยสันนิษฐานว่านายณัฐพล ก่อเหตุตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.2568 แล้วหลบหนีโดยใช้รถจักรยานยนต์คันหนึ่ง
การกระทำกับแม่บังเกิดเกล้า เป็นบาปมหันต์ โดยช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 2 มี.ค.2568 ระหว่างที่ ร.ต.ต.กฤตปณัชช์ ทองยินดี รอง สว.(ป) สภ.เมืองนครปฐม ทำหน้าที่ตำรวจจราจร ออกตรวจสภาพการจราจรบริเวณหน้า กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 สังเกตเห็นชายคนหนึ่ง ท่าทางคล้ายคนเสพยา และไม่สวมหมวกกันน๊อค จึงขับขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบแล้วเรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบ

“ชายคนนี้จอดรถจักรยานยนต์ ผมก็ถามว่าจะไปไหน เขาไม่ตอบ ถามเขาว่าทำไมไม่สวมหมวกกันน๊อค คนอื่นใส่กันหมด เขาตอบว่าไม่รู้ ผมขอดูใบขับขี่และบัตรประชาชน เขาบอกว่าไม่มี มีแต่บัตรประชาชน แล้วเขาก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเป้ จังหวะนั้นเหลือบเห็นทะเบียนรถจังหวัดตรัง จึงเอะใจว่าขับรถจักรยานยนต์ มาหลายร้อยกิโลเมตร มาที่จังหวัดนครปฐม ก็ถามเขาว่ามาจากจังหวัดตรัง เหรอเขาตอบว่าใช่ ผมสังเกตท่าทีเขามีพิรุธ จึงบอกว่าเชิญไปตรวจสอบที่สถานีตำรวจ เขาก็ไปโดยผมขับตามประกบ ” ร.ต.ต.กฤตปณัชช์ เล่าเหตุการณ์
ร.ต.ต.กฤตปณัชช์ เล่าอีกว่า ไปถึงที่สถานีตำรวจ ก็จอดรถหน้าห้องงานจราจร ก็ขอดูบัตรประชาชน เพื่อตรวจสอบในระบบข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ระหว่างดูชื่อนามสกุล เขาดึงบัตรประชาชนกลับอ้างว่าเดี๋ยวหาย จึงตอบไปว่าจะหายได้อย่างไรอยู่กันแค่ 2 คน เขาไม่ตอบแล้วเดินไปมาก็ให้เขานั่งรอในห้อง แล้วเขาถามว่าถ้าจ่ายค่าปรับไม่สวมหมวกกันน๊อคก็ไปได้ใช่ไหม ก็ตอบเขาว่าใช่

“เขาบอกว่าขอใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อที่บ้านให้มาจ่ายค่าปรับ แต่เขาขอให้ผมช่วยแชร์ไวไฟจากโทรศัพท์มือถือ เขาโทรผ่านแอปพลิเคชันแมสเซนเจอร์ เขาคุยสายปลายทาง แต่แล้วคนปลายทางบอกว่าขอคุยกับตำรวจ ผมก็คุยซึ่งปลายทางเป็นเสียงผู้ชายสำเนียงคนใต้ ชายคนนั้นบอกว่า พี่ตำรวจใช่ไหม คนนี้ชื่อนายณัฐพล ใช่ไหมผมตอบว่าใช่ แล้วชายคนนั้นบอกว่า พี่ดูมันให้ดี ๆ นะมันฆ่าแม่เสียชีวิตที่อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง มันกำลังหนี แล้วก็วางสายไป”
ร.ต.ต.กฤตปณัชช์ เล่าอีกว่า พอรู้เบาะแสก็บอกให้นายณัฐพล ว่าให้ไปนั่งรอจ่ายค่าปรับเดี๋ยวญาติจ่ายให้ เขาก็ไปรอ จากนั้นผมไปให้สืบสวนให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองนครปฐม ตรวจสอบประวัติโดยเล่าเรื่องคร่าว ๆ ให้ฟัง ผลการตรวจสอบพบมีหมายจับคดีวางเพลิง เมื่อปี 2566 พื้นที่ สภ.ย่านตาขาว จังหวัดตรัง จากนั้นรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นไปจนถึง พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 ทราบจากนั้นชุดสืบสวนส่งหมายจับคดีฆ่าบุพการี มาให้ชุดสืบสวนจึงจับนายณัฐพล ตามหมายจับของศาล
“เขาเหมือนคนพูดไม่รู้เรื่องบางครั้งก็รู้เรื่องถามว่าฆ่าแม่เหรอ เขาก็ตอบว่าฆ่าเหรอ บางครั้งก็ตอบไม่ได้ฆ่าแค่ทำร้าย บางครั้งก็ตอบว่าไม่รู้เรื่อง จากนั้นชุดสืบสวนก็รับดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อนำตัวนายณัฐพล ไปดำเนินคดีในท้องที่เกิดเหตุ” ร.ต.ต.กฤตปณัชช์ เล่าเหตุการณ์