สั่งฟ้อง 12 เก๋งแต่งซิ่ง ชนวินาศสันตะโรบนทางด่วน กรุงเทพฯ – ชลบุรี 

CIB ไม่ปล่อย! สั่งฟ้อง 12 เก๋งแต่งซิ่ง หลังขับแข่งกันบนทางด่วน กรุงเทพฯ – ชลบุรี จนชนวินาศสันตะโร

คืบหน้าเหตุชนวินาศสันตะโรกลางเมืองพัทยา รถพังยับ 12 คัน บาดเจ็บระนาว เมื่อวันที่ 16 ก.พ.68 ล่าสุด ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ไม่ปล่อยสั่งฟ้องผู้ต้องหา 12 ราย ความผิดฐาน “แข่งรถในทาง และขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยฯ” 



ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./หัวหน้าคณะทำงานป้องกันและปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของผู้อื่น แข่งรถในทาง และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ได้สั่งการให้ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกับกรมทางหลวง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน ร่วมกันสืบสวนสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหา  

1.นายสิริชัย อายุ 23 ปี 

2.นายณัฐวุฒิ อายุ 22 ปี 

3.นายณัฏฐพล อายุ 30 ปี 

4.นายศิวรุต อายุ 26 ปี 

5.นายกรองเกียรติ อายุ 40 ปี 

6.นายธงชัย อายุ 26 ปี 

7.นายภาสกร อายุ 21 ปี 

8.นายพินิจ อายุ 32 ปี 

9.นายศุภรัตน์ อายุ 27 ปี 

10.นายอลงกต อายุ 23 ปี 

11.นายภาณุภัทร อายุ 27 ปี 

12.นายศุภกร อายุ 28 ปี   

ฐานความผิด “ร่วมกันแข่งรถในทางฯ, ขับรถในลักษณะที่เห็นได้ว่าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น และไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้อื่น ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน และขับรถด้วยความเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด” 

พร้อมตรวจยึดของกลาง รถยนต์ 12 คัน 

พฤติการณ์  ด้วยปรากฏคลิปวีดีโอซึ่งแพร่หลายในสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2568 มีกลุ่มรถยนต์ลักษณะคล้ายรถแต่งซิ่ง ขับแข่งกันบนถนนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 ด้วยความเร็วสูง และประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกัน จำนวน 13 คัน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและมีทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย ซึ่งปรากฏภาพเคลื่อนไหว และภาพนิ่งเป็นข่าวเผยแพร่โดยทั่วไปเป็นวงกว้าง ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของท้องที่เกิดเหตุและความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนในลักษณะอุกอาจ ไม่ยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง ก่อความเสียหายให้เกิดความหวาดกลัวแก่ประชาชนในวงกว้างนั้น 

 สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว  เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนถนนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 91+700 (มุ่งหน้ากรุงเทพมหานคร) ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา  จังหวัดชลบุรี  เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2568 เวลาประมาณ 02.20 น. 

 พนักงานสอบสวน ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล.  ได้ทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานแล้วได้ความว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมด 12 ราย ได้รวมกลุ่มขับรถยนต์เข้าสู่ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์) ซึ่งเป็นถนนสาธารณะ ทิศทางจากด่านเก็บเงินหนองขาม (กม.100) มุ่งหน้ากรุงเทพมหานคร โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ขับขี่รถมาด้วยความคึกคะนอง และด้วยความเร็วสูงประมาณ 130-180 กม./ชม. ในลักษณะฉวัดเฉวียน แซงซ้ายขวา เปลี่ยนช่องเดินรถตลอดเวลา ขับกระจายกันเต็มพื้นที่ผิวถนนทุกช่องเดินรถ  บ้างประกบซ้ายขวาของรถยนต์คันอื่นที่แล่นมาตามปกติ และแซงขึ้นหน้าในระยะและทิศทางที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ อันเป็นการขับรถโดยประมาทและน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน และเป็นการขับรถในลักษณะที่เห็นได้ว่าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น และไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้อื่น ย่อมทำให้ผู้ใช้ถนนร่วมกับกลุ่มผู้ก่อเหตุเกรงกลัวต่อความปลอดภัย เป็นระยะทางต่อเนื่องกันไปกว่า 10 กิโลเมตร  

เมื่อถึงบริเวณที่เกิดเหตุรถของผู้ก่อเหตุ 1 ราย ได้เฉี่ยวชนกับผู้ใช้ทางอื่นเสียหลักและหมุนไม่เป็นทิศทางขวางช่องเดินรถ และผู้ก่อเหตุรายอื่นซึ่งแล่นรถมาด้วยความเร็วสูงไม่สามารถหลบหลีกได้ทัน เป็นเหตุให้รถทั้งหมด 13 คัน เฉี่ยวชนกันได้รับความเสียหาย และเศษชิ้นส่วนรถยนต์กระเด็นแตกกระจายไปทั่วทิศทางของถนนแทบไม่เหลือช่องเดินรถ อันเป็นการขับรถในลักษณะรวมกลุ่มแข่งรถกันในทาง โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าพนักงาน อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย 

ในชั้นสอบสวนกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 12 ราย ให้การรับสารภาพในความผิดฐาน “ร่วมกันแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าพนักงาน, ขับรถในลักษณะที่เห็นได้ว่าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น และไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้อื่น, ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน และขับรถด้วยความเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด”  

พนักงานสอบสวนจึงมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 12 รายไปยังพนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี ซึ่งพนักงานอัยการขอให้ศาลลงโทษกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 43(5), และ 43(8), 134 วรรคสอง, 158/1, 160 ทวิ, 160 เบญจ (2)  พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ (ฉบับที่ 13) มาตรา 5, 9, 28, 30, 34 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33, 83  และ ขอริบรถยนต์ จำนวน 12 คันของกลาง เพิกถอนใบอนุญาตขับรถยนต์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดตามกฎหมาย 

ต่อมา วันที่ 20 ก.พ.68 ศาลแขวงชลบุรี ได้พิพากษากลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมด จำคุกคนละ 2 เดือน เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทน มีกำหนดคนละ 2 เดือน ที่เรือนจำกลางชลบุรี  ริบรถของกลางทั้งหมด และสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับรถยนต์ ของกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมด

 

เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง หากพบใครกระทำความผิดโปรดแจ้ง 1586 กด 7  หรือ 1193 ค่ะ