ความรักครั้งแรกของวัยรุ่นคู่หนึ่ง นำไปสู่ความหึงหวงของแฟนหนุ่มทำร้ายแฟนสาวเสียชีวิตริมถนน สุดท้ายแฟนหนุ่มหนีความผิดไม่พ้นจำนนต่อหลักฐานที่เกิดขึ้นตามร่างกายและหลักฐานอื่น ๆ ในถังขยะหน้าบ้านรวมถึงใต้เบาะรถจักรยานยนต์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เบื้องหลังการคลี่คลายคดีสะเทือนขวัญชาวบ้าน อ.หันคา จ.ชัยนาท หลังจากเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 3 เม.ย.68 ตำรวจ สภ.หันคา รับแจ้งพบร่างหญิงวัยรุ่น นอนคว่ำหน้าเสียชีวิต ริมถนนสายวังยาว – หนองต่อ หมู่ 6 ต.หันคา อ.หันคา จ.ชัยนาท
หลังรับแจ้งเหตุทพล.ต.ต.สุรวุฒิ แสงรุ่งเรือง ผบก.ภ.จว.ชัยนาท, พ.ต.อ.ภูริส จินตรานันท์ ผกก.สส. ภ.จว.ชัยนาท และ พ.ต.อ.ธนกฤต รวยอารี ผกก.สภ.หันคา พร้อมชุดสืบสวน ไปตรวจสอบที่จุดรับแจ้งเหตุ พร้อมแพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานตำรวจ เก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งหมด
หญิงวัยรุ่นที่นอนเสียชีวิตคว่ำหน้า ถูกพลิกตัวหงายเพื่อชันสูตร ตามใบหน้าและร่างกายฟกช้ำหลายแห่งลักษณะถูกทำร้าย อีกทั้งในกระเป๋ากางเกงด้านขวา พบบัตรประจำตัวประชาชน 1 ใบ ระบุ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี อยู่บ้านหลังหนึ่งต.หันคา อ.หันคา จ.ชัยนาท ซึ่งห่างจากจุดที่พบร่างไม่กี่กิโลเมตร
ชุดสืบสวนรีบไปที่บ้านหลังนี้ตามที่อยู่ในบัตรประชาชน พบแม่ของ น.ส.เอ จึงเชิญมาที่เกิดเหตุเพื่อยืนยันว่าเป็นลูกสาวหรือไม่ ซึ่งแม่ของ น.ส.เอ ยืนยันตั้งแต่เห็นเสื้อผ้ากางเกงรองเท้าว่าเป็นของลูกสาว
แม่ของ น.ส.เอ ยืนยันว่าตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 2 เม.ย.68 ยังเห็นลูกสาว อยู่ที่บ้านไม่รู้ว่าลูกสาวออกไปช่วงเวลาใด ทำให้ชุดสืบสวนสงสัยจึงซักถามคนในบ้านทั้งหมด จนกระทั่งพบกับหลานชายของ น.ส.เอ ได้ข้อมูลว่า น.ส.เอ แอบออกจากบ้านไม่ได้บอกให้ใครรู้โดยให้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งไม่ไกลจากบ้านพัก โดยบอกว่าเพื่อนจะมารับไปทานหมูกระทะ
ชุดสืบสวนได้ข้อมูลนี้จากหลานชาย จึงสอบถามคนในบ้านว่า น.ส.เอ มีเพื่อนสนิทหรือแฟนหรือไม่ ได้รับคำตอบว่า น.ส.เอ เคยมีแฟนหนุ่มชื่อ “นายแฟรงค์” อายุ 18 ปี เป็นลูกชายของนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่ง ซึ่งแฟนหนุ่ม นิสัยไม่ค่อยดีมักชอบข่มขู่ และทำเรื่องไม่ค่อยดีกับ น.ส.เอ จึงเลิกกันแต่หลังเลิกมักนำเรื่องไม่ดีมาข่มขู่ ก็เริ่มติดต่อพูดคุยกัน
ชุดสืบสวนทราบว่าบ้านของนายแฟรงค์ อยู่ในพื้นที่ ต.วังไก่เถื่อน อ.หันคา จ.ชัยนาท จึงไปตรวจสอบแต่ไม่พบตัว จากนั้นจึงประสานงานกับคนใกล้ชิด โดยชุดสืบสวนรอจนถึงเวลา 22.00 น. ของวันที่ 3 เม.ย.68 นายแฟรงค์ จึงมาพบชุดสืบสวน แต่ก็บ่ายเบี่ยงไม่ตอบคำถามที่ชุดสืบสวนถาม
จนกระทั่ง พ.ต.อ.ภูริส สังเกตเห็นมือขวาของนายแฟรงค์ บวมและเล็บมือฉีก จึงตั้งคำถามว่าทำรุนแรงจนตนเองบาดเจ็บด้วยหรือ?? นายแฟรงค์ ตอบเพียงว่า ครับผม และะชุดสืบสวนตั้งคำถามว่า โทรศัพท์มือถือของ น.ส.เอ อยู่ไหนอยู่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์หรือไม่ นายแฟรงค์ ไม่ตอบคำถาม
ชุดสืบสวน จึงไปตรวจสอบบริเวณถังขยะหน้าบ้านพักของนายแฟรงค์ พบเสื้อผ้ากางเกงของนายแฟรงค์ สวมใส่และพบรถจักรยานยนต์ของนายแฟรงค์ จึงประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน มาเก็บพยานหลักฐาน ขณะเดียวกันชุดสืบสวน ได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง บันทึกภาพนายแฟรงค์ สวมใส่เสื้อผ้าตรงกับที่พบในถังขยะหน้าบ้าน พา น.ส.เอ เข้าไปพักในรีสอร์ทกว่า 2 ชั่วโมงแล้วขับขี่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ออกจากรีสอร์ทในห้วงเวลาที่สอดคล้องกับแพทย์นิติเวช บอกว่า น.ส.เอ เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง
เมื่อพยานหลักฐานครบมัดตัวนายแฟรงค์ ชุดสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้กับพนักงานสอบสวน ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดชัยนาท พิจารณา โดยศาลออกหมายจับที่ 80/2568 ลงวันที่ 4 เม.ย.2568 ให้จับนายนพณัฐ หรือแฟรงค์ ซึ่งต้องหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
หลังศาลออกหมายจับและชุดสืบสวนจับนายแฟรงค์ บริเวณหน้า สภ.หันคา ซึ่งนายแฟรงค์ บอกเพียงว่าเพราะความหึงหวง
