คาสนามบิน! CIB บุกรวบ “สาวบัญชีคริปโต” หลอกลงทุนแอปปลอม สูญ 800 ล้าน

ตำรวจสอบสวนกลาง นำกำลังเข้าจับกุม “สาวไทยเจ้าของบัญชีคริปโต” ร่วมขบวนการแก๊งมาเลฯ หลอกลงทุนผ่านแอปปลอม – พบเหยื่อนับร้อย สูญเงินกว่า 800 ล้านบาท

วันนี้ (20 ก.พ.68) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกันจับกุม น.ส.ณิษฐ์รฐา อายุ 35 ปี ตามหมายจับ ศาลอาญา ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ , เปิด หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตน นำไปใช้ในการกระทำความผิด , สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” โดยสามารถจับกุมได้ที่ “ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง” 

สืบเนื่องจาก กก.3 บก.ปอศ. ได้ทำการสืบสวนสอบสวน ติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการหลอกลงทุนหุ้นไทยและต่างประเทศ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่สร้างปลอมขึ้นมาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งมีผู้เสียหายจำนวนกว่า 100 ราย และมีมูลค่าความเสียหายกว่า 800 ล้านบาท ซึ่งได้ติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดมาโดยตลอด 

จากการสืบสวนพบว่า กลุ่มผู้กระทำความผิดมีทั้งกลุ่มบุคคลสัญชาติมาเลเซีย และสัญชาติไทย ซึ่งในกลุ่มบุคคลสัญชาติไทยจะเป็นกลุ่มหญิงสาวลักลอบเข้าไปทำงานในสถานบริการต่าง ๆ เช่น คลับ เลาจน์ บาร์ ร้านอาหาร ในพื้นที่เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดในหน้าที่ต่าง ๆ ของขบวนการ เช่น การจัดหาบัญชีธนาคารรับเงิน และเปิดบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อแปลงเงินจากการกระทำความผิดเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลและส่งต่อให้กลุ่มผู้รับผลประโยชน์ชาวมาเลเซีย 

จากการประสานความร่วมมือระหว่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (CIB) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย ทราบได้ว่า กลุ่มอาชญากรดังกล่าว ฟอกเงินผ่านบัญชีม้านิติบุคคล ในรูปแบบเดียวกัน เป็นธุระจัดหาบัญชีธนาคาร รับเงินผ่านบัญชีของตนเอง ตลอดจนเปิดบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อนำเงินที่ได้จากการกระทำความผิดมาเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล และส่งต่อไปยังผู้รับผลประโยชน์ที่เป็นชาวมาเลเซีย โดยเฉพาะกรณีของ น.ส.ณิษฐ์รฐา ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารและบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใช้เป็นเส้นทางการเงินจากผู้เสียหาย และแปลงเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ก่อนจะผ่องถ่ายไปเป็นทรัพย์สินอื่นๆ และหลบหนีไปอาศัยอยู่ในเมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย ได้ประสานข้อมูลเชิงลึกให้ผู้ต้องหาสัญชาติไทยรายนี้เดินทางมามอบตัวแก่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ได้สอบถามและยืนยันตัวตนเป็นบุคคลตามหมายจับจริง ก่อนควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินการต่อไป 

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่า ได้เปิดบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลและบัญชีธนาคารให้สามีของตนเองที่เป็นชาวมาเลเซียใช้งานจริง