โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป (Toyota Motor Corp) ประสบความสำเร็จในการรักษาตำแหน่งบริษัทรถยนต์ที่มียอดขายสูงสุดในโลกเป็นปีที่ 5 ติดต่อกันในปี 2567 แม้ว่ายอดขายโดยรวมจะลดลง 3.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมียอดขายรวมทั่วโลกอยู่ที่ 10.82 ล้านคัน ซึ่งรวมถึงยอดขายจากบริษัทในเครืออย่างไดฮัทสุ มอเตอร์ (Daihatsu Motor) และฮีโน่ มอเตอร์ (Hino Motors)
สำหรับยอดขายรถยนต์โตโยต้าเพียงอย่างเดียวอยู่ที่ 10.16 ล้านคัน ลดลง 1.4% จากปีก่อนหน้า สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับการโกงผลทดสอบคุณภาพรถยนต์ในญี่ปุ่น ซึ่งส่งผลให้บริษัทต้องระงับการผลิตรถบางรุ่นชั่วคราว และยอดขายภายในประเทศญี่ปุ่นลดลงถึง 13.8% อยู่ที่ 1.44 ล้านคัน
อย่างไรก็ตาม โตโยต้ายังคงแสดงความแข็งแกร่งในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในอเมริกาเหนือและยุโรป ซึ่งมียอดขายเพิ่มขึ้น 4.3% และ 3.6% ตามลำดับ โดยได้รับแรงหนุนจากความนิยมในรถยนต์รุ่น RAV4 และ C-HR ในขณะที่ยอดขายในจีนลดลง 6.9% อยู่ที่ 1.78 ล้านคัน เนื่องจากความแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง
ที่น่าสนใจคือ ยอดขายรถไฮบริดของโตโยต้าเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 21.1% อยู่ที่ 4.14 ล้านคัน โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดหลักอย่างอเมริกาเหนือและยุโรป แม้ว่าจะมีการแข่งขันจากรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทั่วโลกก็ตาม สำหรับยอดขายรถ EV ของโตโยต้าเพิ่มขึ้น 34.5% แตะที่ 139,892 คัน
ในส่วนของการผลิต โตโยต้ามีการผลิตรถยนต์โดยรวมทั่วโลกลดลง 7.8% อยู่ที่ 10.62 ล้านคัน และการผลิตเฉพาะรถยนต์โตโยต้าลดลง 5.1% อยู่ที่ 9.52 ล้านคัน
สรุปแม้ว่าโตโยต้าจะเผชิญกับความท้าทายทั้งจากข่าวอื้อฉาวและความผันผวนของตลาด แต่บริษัทยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมรถยนต์ได้อย่างมั่นคง โดยเฉพาะจากการเติบโตของรถไฮบริดและรถ EV ที่ตอบสนองต่อเทรนด์การลดคาร์บอนทั่วโลก
ที่มา : (Kyodo News)