นิสสัน ยัน! เดินหน้าลงทุนต่อ เน้นการผลิต HEV เพิ่มพร้อมปรับโครงสร้างโรงงานในไทย

นิสสัน ยืนยันเดินหน้าลงทุนในไทย เน้นการผลิตไฮบริด พร้อมปรับโครงสร้างโรงงาน รับนโยบายส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าจากรัฐบาลไทย ย้ำประเทศไทยยังเป็นฐานการผลิตสำคัญในอาเซียน

นิสสัน ยัน! เดินหน้าลงทุนไทย เน้นการผลิต HEV เพิ่ม พร้อมปรับโครงสร้างโรงงานรับอนาคต รับนโยบายส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าจากรัฐบาลไทย ย้ำประเทศไทยยังเป็นฐานการผลิตสำคัญในอาเซียน

บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด (Nissan) ยืนยันเดินหน้าลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการผลิตรถยนต์ไฮบริด (HEV) เพื่อตอบสนองนโยบายส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลไทย พร้อมปรับโครงสร้างโรงงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุน โดยจะปิดโรงงานที่ 1 ซึ่งเป็นโรงงานเก่าแก่ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2518 และรวมสายการผลิตไปยังโรงงานที่ 2 ที่มีเทคโนโลยีทันสมัยกว่า โรงงานที่ 1 จะถูกปรับเปลี่ยนหน้าที่เป็นศูนย์ประกอบตัวถังและปั๊มขึ้นรูปชิ้นส่วน รวมถึงงานโลจิสติกส์ภายในโรงงาน ขณะที่การประกอบรถยนต์จะย้ายไปอยู่ที่โรงงานที่ 2 ทั้งหมด โดยแผนดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 เป็นต้นไป

นิสสันมีแผนลงทุนเพิ่มเติมในประเทศไทย เพื่อผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ โดยเฉพาะรถยนต์ไฮบริด (HEV) ซึ่งจะขอรับการส่งเสริมตาม “มาตรการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า” ของรัฐบาลไทย โดยมาตรการนี้จะลดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ไฮบริดเหลือร้อยละ 6 – 9 เป็นเวลา 7 ปี (พ.ศ. 2569 – 2575)

นายโทชิฮิโระ ฟูจิกิ ประธานบริษัทนิสสัน ภูมิภาคอาเซียน และนิสสัน ประเทศไทย ยืนยันว่า ประเทศไทยยังคงเป็นตลาดสำคัญของนิสสันในภูมิภาคอาเซียน โดยฐานการผลิตในไทยเป็นเพียงประเทศเดียวในอาเซียนที่นิสสันเป็นผู้ลงทุนเอง นอกจากนี้ ประเทศไทยยังถูกใช้เป็นฐานของสำนักงานภูมิภาค (Regional Headquarters) เพื่อกำกับดูแลกิจการในประเทศต่าง ๆ ในอาเซียน

มาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฮบริด (HEV) ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) เมื่อเดือนธันวาคม 2567 โดยมีเงื่อนไขหลักดังนี้:

1. การลงทุนเพิ่มเติม ไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท ภายในปี 2570

2. การใช้ชิ้นส่วนในประเทศ ต้องใช้แบตเตอรี่ที่ผลิตในประเทศตั้งแต่ปี 2569 และใช้ชิ้นส่วนสำคัญอื่น ๆ เช่น Traction Motor, Reduction Gear, Inverter, BMS, DCU ตั้งแต่ปี 2571

3. ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ (ADAS) ต้องติดตั้งระบบ ADAS อย่างน้อย 4 จาก 6 ระบบ

4. การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ต้องมีการปล่อย CO2 สูงสุดไม่เกิน 120 g/km

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า รัฐบาลและบีโอไอมุ่งมั่นสนับสนุนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน โดยเฉพาะบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่ลงทุนในไทยมายาวนานกว่า 50 ปี เพื่อให้สามารถแข่งขันและเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างราบรื่น ทั้งนี้ รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นผู้นำฐานการผลิตและส่งออกยานยนต์แห่งอนาคตของภูมิภาคและของโลก

นิสสันยืนยันเดินหน้าลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการผลิตรถยนต์ไฮบริด (HEV) เพื่อตอบสนองนโยบายส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลไทย พร้อมปรับโครงสร้างโรงงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุน ประเทศไทยยังคงเป็นฐานการผลิตและตลาดสำคัญของนิสสันในภูมิภาคอาเซียน