“หนุ่มแกร๊บ” ขึ้นโรงพัก เคลียร์ปมทุบรถ “หมอพรทิพย์”

จากกรณีที่คุณหญิงแพทย์หญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เล่าเหตุการณ์ถูกชายฉกรรจ์ทุบหลังคารถยนต์ ห้ามไม่ให้จอดรถยนต์ที่เพื่อนขับมาส่งเพื่อเข้าพักโรงแรมใกล้กับถนนคนเดินวัวลาย ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อค่ำวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา อ้าง ห้ามจอดเพราะจะมีวีไอพีจะมารับประทานอาหารที่ภัตตาคารอาหารจีนย่านดังกล่าว ซึ่งมองว่าการกระทำของชายดังกล่าวไม่เหมาะสมและก้าวร้าว จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ตรวจสอบ

ต่อมาทราบว่า ชายคนดังกล่าวคือ นายอนุพงษ์ นันทนิคม อายุ 27 ปี ชาวลำพูน อาชีพขี่จักรยานยนต์ส่งอาหารแกร๊บ ที่เพิ่งตกเป็นข่าวกรณีโพสต์คลิประบายความอัดอั้นที่ถูกลูกค้าสั่งอาหารและเมื่อไปส่งถึงที่แล้ว กลับยกเลิกโดยไม่สามารถติดต่อได้เมื่อช่วงต้นเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา

ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 ต.ค.63 นายอนุพงษ์ พร้อมด้วย นายจักรกฤษณ์ คะปูคำ อายุ 49 ปี หัวหน้าชุดอาสาจราจรถนนคนเดินเชียงใหม่ เดินทางเข้าพบตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อแสดงตัวและชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมกราบขอโทษแสดงความเสียใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้น ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา

นายอนุพงษ์ เล่าว่า วันที่ 3 ต.ค.63 เวลาประมาณ 19.30 น. ระหว่างที่ตนไปช่วยงานลุงอาสาจราจร อายุ 60 ปี ที่ประจำการอยู่บริเวณดังกล่าว และในวันนั้นลุงได้รับคำสั่งว่าจะมีบุคคลวีไอพีมา จึงต้องจัดระเบียบการจราจรให้รถสามารถวิ่งสวนทางกันได้ โดยตัวเองเคยเป็นอาสาจราจรมาก่อนจึงมาช่วย
ปรากฏว่าระหว่างที่กำลังจัดระเบียบและมีการวางป้ายห้ามจอด ได้มีรถยนต์คันหนึ่งขับเข้ามาจอด ซึ่งตนไม่ทราบและไม่ได้สนใจว่าเป็นรถของใคร จึงได้บอกว่าห้ามจอดและมีการใช้มือตบที่บริเวณท้ายรถเพื่อส่งสัญญาณให้ทราบ โดยยืนยันว่าไม่ได้ทุบหลังคารถและไม่ได้พูดจารวมทั้งแสดงกิริยาก้าวร้าวแต่อย่างใด แต่ด้วยบุคลิกเป็นคนพูดเสียงดัง อาจทำให้ดูเหมือนก้าวร้าว ยืนยันว่าตนเพียงพยายามช่วยทำหน้าที่ในฐานะจิตอาสาเท่านั้น ไม่มีเจตนาข่มขู่คุกคามใด ๆ ทั้งสิ้น และขอโทษที่ทำให้คุณหญิงแพทย์หญิงพรทิพย์ รู้สึกไม่สบายใจ

ด้าน นายจักรกฤษณ์ หัวหน้าชุดอาสาจราจรถนนคนเดินเชียงใหม่ เล่าว่า นายอนุพงษ์ เคยเป็นอาสาจราจรถนนคนเดินเชียงใหม่ ที่ช่วยทำหน้าที่จัดระเบียบการจราจร วางป้าย วางกรวย และช่วยดูแลความเรียบร้อยต่างๆ ในวันที่มีการจัดงานถนนคนเดิน โดยเป็นการทำงานในลักษณะของจิตอาสา
ซึ่งเมื่อปี 2561 เคยเก็บเงินนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 400,000 บาท แล้วนำส่งคืนเจ้าของ และกำลังถูกเสนอชื่อรับรางวัลเชิดชูเกียรติ แต่หลังจากนั้นเกิดปัญหากระทบกระทั่งกับคนขับสามล้อรับส่งนักท่องเที่ยวบริเวณถนนคนเดินระหว่างทำหน้าที่ จึงถูกลงโทษปลดออกจากการเป็นอาสาจราจร

อย่างไรก็ตาม โดยนิสัยใจคอของนายอนุพงษ์ ถือว่าเป็นคนดีคนหนึ่ง มีจิตอาสาและมีน้ำใจ เวลาว่างก็มาช่วยเหลืองานอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เชื่อว่านายอนุพงษ์ เพียงตั้งใจทำหน้าที่เท่านั้น และไม่ได้มีเจตนาเป็นอย่างอื่น รวมทั้งสำนึกขอโทษและได้บทเรียนแล้ว หวังว่าสังคมจะเข้าใจและให้อภัย