วิกฤตโควิดทำชีวิตเปลี่ยน ไร้งาน ไร้เงิน

“ไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19”
ชื่อนี้หลายคนคงจำขึ้นใจ เพราะวิกฤตนี้ทำให้เราทุกคนในประเทศไทย ได้รับบทเรียนกันหลายบท หลักๆก็จะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจ สาธารณสุข และอื่นๆ แม้วันนี้สถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายแล้ว แต่ชีวิตทุกคนกลับเปลี่ยนไป ทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน หรือแม้กระทั่งการออกไปใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นข้างนอก ทุกคนได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่ออยู่รอดใน วิถีชีวิตใหม่ (New Normal)

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณปลายเดือนธันวาคม พ.ศ.2563 สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มระบาดที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ในขณะนั้นจีนทุกข์หนัก เพราะไวรัสระบาดใหญ่เป็นกลุ่มก้อน และประเทศไทยของเราก็เริ่มตระหนก พร้อมกับตระหนักในการป้องกันก่อนที่โรคจะเข้ามาถึงประเทศ ด้วยการเริ่มเฝ้าระวังคัดกรองผู้โดยสารจากทางเครื่องบิน โดยเฉพาะเที่ยวบินที่มาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน และเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวกับปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโควิด-19ให้กับประชาชน

แต่แล้ววันที่ 13 มกราคม 2563 #ประเทศไทยก็พบผู้ติดเชื้อรายแรก เป็นนักท่องเที่ยวสาวชาวจีน อายุ 61 ปี ซึ่งถูกคัดกรองจากสนามบินสุวรรณภูมิ และผู้ป่วยรายนี้ไม่ได้เป็นการติดต่อกันในประเทศ แต่เป็นการติดต่อมาจากประเทศจีน หลังจากวันนั้นชีวิตของคนไทยทุกคนก็เริ่มเปลี่ยนไป… เพราะยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มมีรายงานเข้ามาทุกวัน และ #เป็นการติดเชื้อในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2563 โดยไม่มีประวัติเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง แต่ด้วยการประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่และมีประวัติรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจึงทำให้ติดเชื้อ

อ่านข่าว : เปิดใจลุงทองสุข แท็กซี่คนไทยคนแรก ติดโควิด-19

จากผู้ติดเชื้อไม่กี่คนสู่ตัวเลขนับพัน เพราะสนามมวยและสถานบันเทิง การรักษาและการป้องกันถูกดำเนินมาควบคู่กันอย่างต่อเนื่อง 29 กุมภาพันธ์ 2563 ข่าวร้ายก็เกิดขึ้น ประเทศไทยพบผู้เสียชีวิตรายแรก เป็นชายไทย อายุ 35 ปี ทำงานขายสินค้า ผู้ป่วยไม่มีโรคประจำตัวใดๆ แต่เชื้อไวรัสทำให้ปอดเสียหายหนักมาก ก่อนพรากชายคนนี้ไปจากครอบครัว อ่านข่าว : ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด -19 เสียชีวิตรายแรกในไทย

ช่วงปลายเดือนมีนาคม ทำให้ชีวิตของคนไทยเปลี่ยนไปอีกครั้ง เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่จากสนามมวยลุมพินีและสถานบันเทิงย่านทองหล่อ พุ่งสูงสุด 188 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมพุ่งถึงตัวเลขนับพัน นับตั้งแต่แม่บ้านยันผู้จัดการร้าน หรือแม้กระทั่งดารา ประชาชนคนไทยเริ่มตระหนักกันมากขึ้นกว่าเดิม หลายบริษัท หลายองค์กรเริ่มสั่งให้พนักงานกลับไปทำงานที่บ้าน (Work From Home) เพื่อเป็นการหยุดเชื้อเพื่อชาติ ให้มีการออกจากบ้านน้อยที่สุด เพื่อรักษาความปลอดภัยของแต่ละคน เนื่องจากประเทศไทยเรายังไม่มียาหรือวัคซีนเฉพาะที่ใช้รักษาเชื้อไวรัสโควิดให้หายขาดได้ เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคน ให้ดูแลตัวเอง หลายคนหวาดกลัว หวาดระแวง จนต้องกักตุนหน้ากากอนามัย ทำให้หน้ากากอนามัยขาดตลาดไปประมาณเดือนกว่าๆ อ่านข่าว

เซียนมวยติดเชื้อโควิด-19 เตือนคนในเวทีมวยรีบเช็คด่วน!

สธ.แถลงไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 188 รายอาการหนัก 7 ราย

สธ.เเถลง ไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 136 ราย

โควิดทำวิกฤตแล้ว ยังทำให้หน้ากากอนามัยขาดตลาด ไม่เพียงพอต่อ หมอ พยาบาล ประชาชน ถึงแม้มีคำสั่งให้ทุกคนอยู่บ้านให้มากที่สุด แต่อาชีพที่จำเป็นต้องออกมาข้างนอก อย่างพ่อค้าแม่ขาย หลายคนก็ยังต้องออกมาขายของเพื่อหาเงินประทังชีวิตตัวเองและครอบครัว อีจันมีโอกาสได้คุยกับพ่อค้าแม่ค้า พวกเขา เล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงและประกายแววตาที่มีแต่ความสู้ ว่า “โควิดทำให้ท้อ แต่รอให้สถานการณ์คลี่คลายไม่ได้ จำเป็นต้องออกมาขายของ ชีวิตเปลี่ยนไปมาก จากที่เคยขายของได้กำไรทุกวัน ตอนนี้มีแต่ขาดทุน แต่จะทำอย่างไรได้ เงินก็ต้องใช้ ค่าเช่าบ้านก็ต้องจ่าย” บางราย มีเงินติดตัวเหลือเพียง 1,000 บาท จะลงทุนก็ไม่กล้า เพราะคิดว่าลงทุนไปก็มีแต่ขาดทุน ต้องเก็บเงินก้อนสุดท้ายนี้ไว้ ใช้รักษาตัวเองยามเจ็บป่วย

โควิดไม่ได้เพียงส่งผลกระทบต่อคนที่ทำงานหาเช้ากินค่ำเท่านั้นนะ ยังส่งผลกระทบต่อ #โรงเรียน
โรงเรียนถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่เสี่ยง เพราะเป็นสถานที่ที่ต้องมีการรวมกลุ่มหรือตัวกันของนักเรียน ทางรัฐบาลเองก็ได้ประกาศเลื่อนการเปิดเทอมออกไป เพื่อรับมือกับสถานการณ์โควิด ทุกอย่างมีการปรับตัวหมดแม้กระทั่งการเรียน ก็เป็นการเรียนออนไลน์แทน แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็มีบางกระแสที่ออกมาบอกว่า การเรียนออนไลน์ส่งผลกระทบต่อเด็กและผู้ปกครอง ทั้งแง่ของความไม่พร้อม รวมถึงเด็กนักเรียนหลายคนที่อยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร สัญญาณอินเทอร์เน็ตเข้าไม่ถึง จึงทำให้เกิดปัญหา

เรียกได้ว่าโควิด-19 ส่งผลกระทบทุกมุมของประเทศไทย รวมถึงการท่องเที่ยว ชุมชนที่เคยมีนักท่องเที่ยวเข้าไปพัก เข้าไปใช้บริการก็ต้องปิดตัวลง บางสถานที่ขาดทุนจนเจ๊ง ไม่สามารถกลับมาเปิดกิจการต่อได้ ยกตัวอย่างเช่น ที่จังหวัดภูเก็ต จากที่เคยเป็นจังหวัดที่ทำเงินมหาศาลให้กับประเทศ เพราะนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าจังหวัดไม่ต่ำกว่าปีละ 1 ล้าน คน พอเจอโควิด ภูเก็ตเกือบร้าง พ่อค้าแม่ค้ารายได้หด หาดทรายขาวๆสวยๆแทบไม่มีคนเดิน

อ่านข่าว : ภูเก็ตเงียบกริบ! ร้านอาหารริมทางพ่อค้าแม่ค้านั่งหงอยไม่มีลูกค้า

นับตั้งแต่วันที่โควิดระบาดจนถึงวันนี้ ก็ผ่านมาแล้วกว่า 8 เดือน ไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศไทยมานาน 78 วัน ถึงแม้โควิดซาแล้ว แต่เศรษฐกิจก็ยังไม่กลับมาเหมือนเดิม การใช้ชีวิตเปลี่ยนไปมาก ทุกคนยังคงต้องปรับตัวเสมอ

โควิด-19 ถือเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับคนไทยทุกคน อาจจะทำให้เราเหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง แต่เชื่อว่าวิกฤตนี้จะเป็นบททดสอบที่ทำให้เราได้เรียนรู้ชีวิตมากขึ้น และอย่าที่สำคัญอย่าลืมที่จะเว้นระยะห่างทางสังคม สวมหน้าอนามัย พกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เพื่อความปลอดภัยของตัวเองด้วยนะคะ