“ทนายเจมส์” ชี้แจงข้อกฎหมายกรณีเรื่องค่าตอบแทน ถ้าอีกฝั่งยอมมาคุยเรื่องทุกอย่างก็จบ

“ทนายเจมส์” แจงข้อกฎหมาย กรณีเรื่องค่าตอบแทน ถ้าไม่ติดสัญญา ควรได้ 50 % ด้วยซ้ำ

จากประเด็นดราม่าเรื่องค่าตอบแทน ของเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว ระหว่าง “เก้า เกริกพล” กับ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ซึ่งต่างฝ่ายก็ต่างยืนยันว่าตัวเองนั้นพูดความจริงในเรื่องของส่วนแบ่ง 70/30 แต่เรื่องนี้ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้เลยต้องใช้กฎหมายมานำเสนอเรื่องราวและข้อเท็จจริงเพื่อให้ศาลนั้นได้ตัดสินและชี้ขาด

ภาพจากอีจัน

ซึ่งครั้งนี้ทาง “เก้า เกริกพล” และทีมงาน ได้ติดต่อตรงมาหา “ทนายเจมส์” เพื่อปรึกษาเรื่องดังกล่าวว่าเพื่อให้ช่วยเดินเรื่องในครั้งนี้ตามกฎหมาย “ทนายเจมส์” ก็ตอบยืนยันที่จะช่วยในกรณีนี้ และมองว่า มันเป็นการร่วมลงทุน ซึ่งทางฝั่ง“เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” เองก็มีในเรื่องของลิขสิทธิ์เพลงและมีนักร้องอยู่ในสังกัดอยู่แล้ว แต่เพียงแค่ขาดฐานเสียงนักร้องชาย ซึ่งตอนนั้น “เก้า เกริกพล” เองก็มีคนรู้จักและชื่อเสียงมาเป็นทุน และหลังจากที่ได้ร่วมเป็นหุ้นส่วนแล้วก็ต้องมีการแบ่งกันตามข้อตกลง ซึ่งผมมองว่า ถ้าไม่ได้มีการตกลงกันตั้งแต่แรกว่า 70/30 “เก้า เกริกพล” สมควรที่จะได้ 50/50 ด้วยซ้ำ

ภาพจากอีจัน

จากกรณีนี้ทำให้หลายๆคนสงสัยว่าสัญญาที่ไม่ได้เป็นลายลักษณ์อักษรสามารถฟ้องร้องกันได้หรือเปล่า? ทางฝั่ง “ทนายเจมส์” ก็ยืนยันว่าสามารถฟ้องได้แน่นอนเพราะเรื่องนี้ถือว่าเป็นการร่วมลงทุนซึ่งสัญญาร่วมลงทุนหรือการเป็นหุ้นส่วนสามัญ ทางกฎหมายไม่ได้ระบุว่าต้องมีหนังสือมายืนยัน และในเรื่องนี้น้องเก้าสามารถใช้สิทธิ์ในการฟ้องได้โดยการนำมิวสิควิดีโอที่ทำร่วมกันจนก่อให้เกิดรายได้ แต่ไม่ได้ส่วนแบ่งไปคุยต่อศาลให้ศาลตัดสิน เพื่อให้น้องเก้าได้ส่วนแบ่งตามที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ เท่านั้นเอง

ภาพจากอีจัน

ในครั้งนี้ถ้าหากว่าอีกฝ่ายยังไม่มาเคลียร์ กรณีนี้ก็สามารถฟ้องได้ทั้งหมด 3 รูปแบบดังนี้
1 คดีแพ่ง เพื่อเรียกร้องผลประโยชน์ที่ควรจะได้
2 เรื่องลิขสิทธิ์ อาจจะเป็นในเพลงหรือตัวนักแสดง
3 การยักยอกทรัพย์ ซึ่งมีการเบียดบังเอาค่าตัวของน้องไปอันนี้ก็จะเป็นคดีอาญา ซึ่งมีโทษที่ร้ายแรง ยังไม่แนะนำแต่เพียงแค่อาจจะต้องไปลงบันทึกไว้ก่อน
แต่ครั้งนี้ถ้าอีกฝ่ายติดต่อมา และมีข้อเสนอที่สมเหตุสมผลก็อาจจะยอมยุติเรื่องทั้งหมดเพราะจะได้ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายไปมากกว่านี้

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

“ทนายเจมส์” ในฐานะตัวแทนทนายฝั่งน้องเก้าขอฝากถึงคู่กรณีเรื่องนี้ว่า ถ้ายอมลดทิฐิ ลดความโกรธแล้วมาคุยกัน เรื่องทุกอย่างก็จบไม่ต้องขึ้นศาลให้เสียเวลา และสำหรับเรื่องนี้จะจบอย่างไร รอติดตามกันนะคะ