“โย่ง อาร์มแชร์” เผยทั้งน้ำตาวินาทีคุณพ่อจากไปด้วยอาการไขกระดูกเสื่อมจนติดเชื้อในปอด

“โย่ง อาร์มแชร์” เผยทั้งน้ำตาวินาทีคุณพ่อจากไปด้วยอาการไขกระดูกเสื่อมจนติดเชื้อในปอด สัญญาจะดูแลคุณแม่ให้ดี

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับนักร้องหนุ่ม "โย่ง อนุสรณ์ มณีเทศ” หรือ “โย่ง อาร์มแชร์” ที่ต้องสูญเสียเสาหลักของบ้าน อย่าง "คุณพ่อสุรชัย มณีเทศ" ที่จากไปอย่างสงบเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 15 ก.ค. 2563 ที่ผ่านมา ในวัย 69 ปี ด้วยอาการติดเชื้อที่ปอด

ภาพจากอีจัน
ล่าสุด (16 กรกฎาคม 2563) ทางครอบครัว “มณีเทศ” ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลและสวดอภิธรรม ที่ศาลา 7 วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร (บางเขน) ซึ่งบรรยากาศภายในศาลาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าของครอบครัว "มณีเทศ" ตลอดจนเพื่อนพี่น้องทั้งในและนอกวงการของ "โย่ง อาร์มแชร์" ที่เดินทาง ทยอยส่งพวงหรีดมาแสดงความอาลัยกันเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น แอน ทองประสม, หมาก ปริญ , มิว นิษฐา , วู้ดดี้ วุฒิธร สมาชิกวงซีล และอีกมากมาย
ภาพจากอีจัน
โดย "โย่ง อาร์มแชร์" ได้เปิดเผยว่า สำหรับการจากไปของคุณพ่อนั้นเริ่มมาจากอาการป่วยด้วยโรคไขกระดูกเสื่อม ส่งผลให้ร่างกายนั้นผลิตเม็ดเลือดขาวออกมาได้น้อย เมื่อเม็ดเลือดขาวน้อยลงก็ทำให้ภูมิต้านทานในการต่อสู้กับเชื้อโรคน้อยลง และยังส่งผลให้ติดเชื้อได้ง่าย ขนาดที่เป็นไข้หวัดธรรมดาถึงขั้นต้องเข้าไอซียูเลยทีเดียว
ภาพจากอีจัน
ทางครอบครัวทราบว่าคุณพ่อเป็นโรคไขกระดูกเสื่อมเมื่อช่วงเดือนธันวาคม ใกล้กับวันเกิดของท่าน ตอนนั้นเองครอบครัวก็ลำบากใจที่จะบอกโดยตรงกับทางคุณพ่อ เพราะโรคดังกล่าวนั้นไม่สามารถรักษาให้หายได้ อีกทั้งใกล้ถึงวันเกิดท่าน กลัวท่านจะทำใจไม่ได้ ครอบครัวเลยเก็บไว้เป็นความลับรอหลังฉลองวันเกิด
ภาพจากอีจัน


ส่วนการรักษาตัวที่โรงพยาบาลนั้นหลังจากตรวจเจอในช่วงธันวาคมที่ผ่านมา ก็เข้าออกโรงพยาบาล 2 ครั้ง ครั้งแรกก็สามารถกลับบ้านได้ แต่ครั้งที่ 2 คือครั้งล่าสุดท่านเหมือนภูมิคุ้มกันไม่ดี ให้ยาฆ่าเชื้อไปก็ไม่มีการตอบสนอง ทำให้ติดเชื้อที่ปอด 

ที่ผ่านมาคุณพ่อต่อสู้มาตลอด มีสติและพยายามสื่อสารกับเรา และบอกกับครอบครัวว่ายังไหว ซึ่งก่อนที่ท่านจะเสียนั้นอาการท่านก็ดีขึ้นถึงขั้นจะออกจากโรงพยาบาล แต่อยู่ๆ ก็เกิดทรุดลงจนทีมเเพทย์ต้องเรียกครอบครัวไปพูดคุยและให้ทำใจไว้ ครอบครัวเองภาวนาและหวังทุกวันแต่สุดท้ายก็ไม่มีปาฏิหาริย์ จนคุณหมอใช้วิธีการเพิ่มยาให้ท่านหลับและค่อยๆ จากไป

ช่วงสุดท้ายทางตนและครอบครัวก็ได้แต่พูดอำลาท่านทุกวันบอกว่าท่านไม่ต้องเป็นห่วงพร้อมรับปากจะดูแลคุณแม่ให้อย่างดี และได้ยืนเฝ้าท่านจนถึงวินาทีสุดท้าย ผมเรียนเซฟมาแต่ยังไม่มีโอกาสได้ทำอาหารให้กับท่านได้แต่มื้อเดียว เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าเสียดาย"

ภาพจากอีจัน


"โย่ง" ยังกล่าวต่ออีกว่า ถ้ามีโอกาสหากได้เจอกันอีกขอให้ท่านเกิดมาเป็นลูกของผมบ้าง ส่วนทางคุณแม่เองยอมรับว่าท่านเข้มแข็งมากกว่าที่คิด เพราะท่านมองว่าการจากลาครั้งนี้เป็นเพียงหนึ่งวาระที่จะทำให้ในอนาคตจะได้เจอกันอีก วินาทีสุดท้ายของชีวิตส่วนตัวพร้อมทำหน้าที่ลูกได้ดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัว "มณีเทศ" ได้กำหนดการสวดอภิธรรมศพตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2563 ถึง 20 กรกฎาคม 2563 ก่อนที่จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 21 กรกฎาคม 2563