จีนนำเข้าวัคซีนงูสวัด ประเดิมใช้ในปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้

3 ก.ค. 63 สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า หนังสือพิมพ์ไซแอนซ์ แอนด์ เทคโนโลยี เดลี (Science and Technology Daily) รายงานว่า วัคซีนต้านงูสวัดนำเข้าสำหรับประชาชนอายุ 50 ปีขึ้นไป พร้อมใช้งานแล้วในกรุงปักกิ่งและนครเซี่ยงไฮ้ เริ่มตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมนี้ โดยวัคซีนงูสวัด (Shingrix) ได้รับการพัฒนาโดยแกล็กโซสมิธไคลน์ (Glaxosmithkline) บริษัทยายักษ์ใหญ่ของสหราชอาณาจักร และได้รับการอนุมัติให้วางจำหน่ายในท้องตลาดโดยสำนักงานบริหารเวชภัณฑ์แห่งชาติจีน (National Medical Products Administration – NMPA) เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

สำหรับวัคซีนตัวดังกล่าวเป็น 1 ใน 48 ยาชนิดใหม่ที่จำเป็นอย่างเร่งด่วนทางคลินิก ซึ่งต้องการให้สำนักงานพิจารณาอนุมัติแบบเร่งด่วน และเป็นวัคซีนงูสวัดลูกผสม เพียงตัวเดียวในตลาดจีน ณ ขณะนี้ โรคงูสวัด เกิดจากเชื้อไวรัสวาริเซลลาซอสเตอร์ และมีลักษณะเป็นผื่นคันพร้อมด้วยตุ่มน้ำพองเต็มลำตัวทั้งสองข้าง โดยสวีจินฮวา ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังจากโรงพยาบาลหัวซาน ในเซี่ยงไฮ้ เผยว่า โรคงูสวัดยังก่อให้เกิดอาการปวดประสาท ซึ่งอาจรุนแรงกว่าอาการเจ็บครรภ์คลอด หรืออาการปวดเรื้อรังจากมะเร็ง และในบางกรณีอาจนำไปสู่ความผิดปกติทางจิตและภาวะซึมเศร้าได้

รายงานระบุว่า หญิงแซ่ฟางรายหนึ่งเป็นผู้ได้รับวัคซีนรายแรกที่ศูนย์ดูแลสุขภาพชุมชนเซี่ยงไฮ้ เมื่อวันพฤหัสบดี (2 ก.ค 63) โดยลูกสาวของฟางเผยว่างูสวัดทำให้คุณตาของเธอต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก “เพียงแค่สัมผัสกับเสื้อผ้าเล็กน้อย ก็ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรงได้แล้ว” เธอเล่า โรคงูสวัด ส่งผลกระทบต่อผู้ใหญ่ในจีนเกือบ 3 ล้านคนต่อปี โดยมีผู้ป่วยรายใหม่ปีละ 1.56 ล้านคน ซึ่งผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคดังกล่าว เนื่องจากวิธีการรักษาที่มีจำกัดในขณะนี้ การฉีดวัคซีนจึงเป็นวิธีการยับยั้งโรคที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งนี้ นอกเหนือจากผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว ผู้ที่เคยเป็นโรคงูสวัดยังสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโอกาสการเกิดโรคนี้ในอนาคตได้อีกด้วย โดยจำเป็นต้องฉีดวัคซีน 2 เข็มในระยะเวลา 2 เดือน ซึ่งสนนราคาอยู่ที่ 1603.5 หยวน (ราว 7,000 บาท) ต่อเข็ม