“ชมพู ฟรุ๊ตตี้” เผยหลงผิดมานานกว่า 30 ปี

จุดเปลี่ยนตัวเองของ “ชมพู ฟรุ๊ตตี้” เพราะเห็นน้ำตาภรรยา

เป็นอีกหนึ่งคู่รักมาราธอนของคนในวงการบันเทิงที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมายาวนานมากกว่า 30 ปี สำหรับ "ชมพู ฟรุ๊ตตี้" หรือ "สุทธิพงษ์ วัฒนจัง" และภรรยาสาว "บุ๋ม-จุฑามาศ อิสสรานุกฤต" ล่าสุดนักร้องนักแต่งเพลงคนดัง "ชมพู ฟรุ๊ตตี๊" ได้มาเปิดใจผ่านรายการ CLUB FRIDAY SHOW เผยถึงความเจ้าชู้ที่ไม่รู้ตัวว่าทำให้ภรรยาเสียใจมาตลอด 30 ปี พร้อมสารภาพทั้งน้ำตาว่ารู้สึกผิดในสิ่งที่ตัวเองได้ทำในอดีตที่ผ่านมากับภรรยา และผู้หญิงที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ซึ่งจุดที่ทำให้ประกาศเลิกเจ้าชู้ เพราะได้เห็นน้ำตาของภรรยาสุดที่รัก

ภาพจากอีจัน
ชมพู ฟรุ๊ตตี้ : เค้าเริ่มร้องไห้ให้เห็น เค้าบอกว่าให้เจ้าชู้มา 30 ปีแล้ว เลิกได้มั้ย เค้าถามมาเราตอบได้เลยว่าเลิกได้แบบตอบได้ตรงนั้นที่เค้าถามเลย เอาจริงๆเราเพิ่งคิดได้ว่าสิ่งที่เราทำมันผิด ในวันที่เค้ามาขอให้เราเลิกเจ้าชู้ในตอนนั้นเราก็ถามตัวเองว่าสิ่งที่เราต้องการจริงๆ คือ อะไรเราก็อยากมีความสุข ตอนนั้นเราก็เริ่มคิดว่าสิ่งที่เรามีความสุขมีอะไรบ้าง มันก็คือ การที่เราได้เห็นแก่ตัวไง การได้เห็นแก่ตัวมันเป็นความสุขของมนุษย์อยู่แล้ว แต่มันก็ต้องนึกถึงคนที่อยู่กับเราด้วยว่าด้วยความการได้เห็นแก่ตัวเค้ามีความสุขด้วยมั้ย เค้าได้เห็นแก่ตัวด้วยมั้ย ผมว่าแฟร์ๆเลยคือ เราได้อยู่ฝ่ายเดียวคงอยู๋ไม่นาน เดียวคงไม่ได้อยู่ด้วยกัน แล้วเราก็รู้สึกว่าเค้าเป็นคนที่เราเลือกมาแล้ว และเลือกมาเป็นอย่างดีแล้วมันก็ดีจริงๆด้วย ตอนนี้เหลือแต่เราที่ไม่ดี เพราะเราเข้าใจเองมาตลอดว่าการที่เราเจ้าชู้เค้าโอเค เพราะเราก็บอกกับเค้ามาตลอด ว่าเราเจ้าชู้นะ แต่สิ่งที่เค้าจะได้หรือจะไม่มีปัญหาอะไรใดๆมา ไม่มีทางที่จะไปมีใจให้กับคนอื่น วิธีคิดของเราเป็นแบบนี้ไง ซึ่งนั่นแร่ะ พอเห็นเค้าร้องไห้ มันคือจุดเปลี่ยนถ้าเราไม่เปลี่ยนเรื่อง คงเปลี่ยนไปอีกแบบ นั้นก็เลยบอกว่านั่นเป็นการเหมือนโดนสิบล้อชนอีกแบบหนึ่ง ทำให้เราเลือกเจ้าชู้เลย ตอนนี้ไม่มีเลยเป็นศูนย์เลยครับ
ภาพจากอีจัน
ถาม : พี่บุ๋มเค้าเคยเสียใจสิ่งที่พี่พู ไปมีคนอื่นบ้างไหมคะ ชมพู ฟรุ๊ตตี้ : ถ้าในช่วงก่อนหน้านั้น ตอนแรกๆไม่มีนะ เพราะเราถามเค้ามาแล้ว เค้าไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะช่วงเวลาเค้าไปบินเค้าอยู่ต่างประเทศ เค้าก็จะอยู่กับเพื่อน เที่ยว ช้อปปิ้ง ผมไม่ได้บอกว่าผมใช้เวลาที่บุ๋มไปบินเจ้าชู้นะ ถ้าจะเจ้าชู้เราเจ้าชู้ได้ทุกวัน แต่งานที่เราทำเนี่ย ไม่มีเวลาให้ไปเจ้าชู้ได้ทุกวัน เพราะงั้นเวลาที่ บุ๋ม ไปบินผมทำงาน แต่ถ้ามีเวลาบ้างผมก็ออกไปบ้าง และถ้าเค้ากลับมาจากบินเวลาที่เค้าอยู่เมืองไทย คือ เวลาของเค้าทั้งหมด เค้าเลยไม่รู้สึกอะไรกับความเจ้าชู้ของเรา เพราะชีวิตมีภาระรับผิดชอบ แต่มารู้เอาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว รู้ว่าเค้าไม่แฮปปี้มาตลอด คือ เราทั้งสองคนคิดเองกันว่าเราแฮปปี้กันแต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลยครับ
ภาพจากอีจัน
ถาม : คือการเป็นแฟนกันคือ พื้นฐานคือ รักเดียวใจเดียวไม่นอกใจกัน ชมพู ฟรุ๊ตตี้ : ไม่รู้เลยครับ ผมว่าชีวิตเราไม่จำเป็นต้องรักเดียวใจเดียว ในวันนั้นนะครับ คือจะบอกว่าเป็นคนแย่ก็ยอม เราคิดตอนนั้นคือ การที่เราบอกความเป็นตัวตนของเรา ถ้าคุณรับได้ก็จบไง บุ๋ม รับได้มาตลอด 30 ปี ถามว่า 30 ปีหยุดมั้ย หยุดสิ แต่ช่วงแรกๆก็จะหนักหน่อย ช่วงแรกๆที่เราคบกันแล้ว บุ๋ม เค้าก็เลิกร้องเพลงไปเป็นแอร์ เค้าก็รู้ว่าเราเจ้าชู้มาตลอด ใช่ !! เราถามเค้าตกลงเป็นแฟนกันเราก็ไม่คิดว่าจะต้องเปลี่ยนอะไร คือ ระหว่างที่เราถามเค้าที่เราเป็นแฟนเค้าเราไม่คิดเลยนะว่าต้องเลิกเจ้าชู้ คือมันไม่อยู่ในหัวข้อที่ว่าฉันต้องทำ เราไม่เคยคิดว่ามีแฟนเราต้องทำเลย ผมไม่รู้ว่าเป็นแฟนที่ดี เป็นยังไงเพราะผมไม่เคยมีแฟนเพราะฉะนั้น การที่เราขอเค้าเป็นแฟนเราต้องแลกด้วยอะไร หลังจากนั้นโอเคจบ หลังจากเป็นแฟนเค้าหนึ่งเดือน เค้ามาถามเพราะเค้าไม่รู้ ใช่ครับเพราะเค้าไม่รู้ พอเป็นแฟนกันก็มีคนเริ่มกระจายข่าวให้เค้ารู้ เค้าก็ได้ข้อมูลมาว่าผมเจ้าชู้มาก ระวังนะถ้าชมพูจีบระวังมากๆเลยนะ ผมก็ไม่รู้ว่าได้มาจากใคร แต่ผมเชื่อว่าน่าจะมาจากทุกคน บุ๋ม เลยมาถามผมว่าเจ้าชู้มากเลยเหรอ ผมก็ตอบ ใช่ๆ คือ ผมเนี้ยอย่าถามเพราะถามผมก็จะบอกตรงๆผมจะเป็นคนไม่โกหก แต่ถ้าไม่ถามผมก็จะไม่บอก คือเราก็รู้สึกว่าตอนนั้นนะครับ ว่าเจ้าชู้แล้วยังไง ผมก็ถามเค้าทำไมเหรอเป็นคนเจ้าชู้มีอะไรหรือเปล่า ผมก็บอกว่าแล้วเลิกไม่ได้ด้วยนะ ถ้าจะให้เลิกเจ้าชู้เนี้ย เลิกกันตอนนี้เลยดีกว่า ในขณะที่เราไม่มีความสำคัญใดๆมากเค้าก็บอกว่า ไม่เป็นไรไม่ห้าม
ภาพจากอีจัน
ถาม : ในช่วงที่เรามีชื่อเสียง โด่งดังต้องมีคนเข้ามามากมาย มีหญิงๆมากกมายขนาดไหนค่ะ เคยจดสถิตไว้มั้ย ชมพู ฟรุ๊ตตี้ : เคยจดครับ แต่ ณ เวลานั้นก็คือ พอเค้าเรียกเราไปนั่งคุยขอบอกตามตรงนะครับ ว่าเราจะหาประโยชน์จากเค้านะ ไม่ใช่ผมได้เปรียบแต่เราแบบยังไง!! แฟร์ๆกัน คือแบบว่าคุณได้แต้มผม ผมได้แต้มคุณ เพราะความสัมพันธ์แบบคืนเดียว ไม่ได้นัดกันไปคบกันแบบยาวอะไรแบบนี้ ปีแรกผมจดไว้ 44 คน ผมจดชื่อนามสกุล เจอกันที่ไหน วันไหน จะได้ระลึก ใน 44 คนนี้ ผมไม่ได้เรียกใครว่าแฟน แต่พอเราอายุมากขึ้นเพิ่มขึ้น ช่วงชีวิตวันนั้นที่คิดว่าต่างคนต่างได้มันอาจจะมีความคิดของเราคนเดียวก็ได้ เพราะมาร็ทีหลังผ่านไปหลายปี มีเพื่อนมาบอกว่าคนนั้นเค้าเสียใจนะตอนนั้น เราก็บอกว่าอ้าว … เสียใจทำไมอ่ะ ต้องบอกว่ามิติการใช้ชีวิตของผมคือ ผมได้ออกจากบ้านมาใช้ชีวิตของผมเองคนเดียวเรียน เล่นดนตรี มันเลยทำให้ความคิดของเราอยู่ในโลกของเรา แบบโลกของเราถูกปฎิบัติมาแบบนี้เค้านึกอยากจะเลิกกับเราเค้าก็ตอบว่าเลิกเราก็ต้องจบ เราก็เข้าใจว่าอ๋อ …การที่เราจะต้องจบกับใครก็แค่บอกเค้าเท่านั้นเองเราก็เข้าใจแบบนั้น พอเราอายุมากขึ้นหลายปีต่อมา มันก็ได้เจอกันอยู่ ขอบอกก่อนนะครับ ว่าที่เราเล่าให้ฟังไม่ได้มาด้วยความภาคภูมิใจนะครับ แค่เล่าให้ฟัง วันนี้เป็นความรู้สึกสำนึกเสียใจก็ว่าได้ เพราะในตอนที่เราเป็นวัยรุ่น พอเราก็อย่างที่บอกว่าช่วงอายุแต่ละช่วงคิดตามช่วงอายุ คือ อย่างอายุพอเพิ่มขึ้นช่วงละ 10 ปี ความคิดมันก็ค่อยๆเปลี่ยน เราโตขึ้นเราก็รู้สึกผิดในสิ่งที่เราได้ทำลงไป
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ความเจ้าชู้ไม่รู้ตัวอาจเกิดขึ้นได้ แต่เมื่อรู้ตัวว่าทำให้คนที่รักเราเสียใจแล้วเลิกได้ พร้อมทำให้ครอบครัวมีความสุข คนที่เรารักและคนรักเราเค้ามีรอยยิ้ม ก็ถือว่าเป็นอีกคนที่ยอมปรับปรุงตัวเพื่อคนในครอบครัวนะคะ