จับ 8 ราย ขัดคำสั่งห้ามเคลื่อนย้าย-พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

กองกำลังบูรพาสระแก้ว ตรึงชายแดนสกัดชายไทยลักลอบขนต่างด้าว 7 ราย ขัดคำสั่งห้ามเคลื่อนย้าย-พ.ร.ก ฉุกเฉินฯ

วันที่ 9 เม.ย.63 พ.อ.เสกสรรค์ พรหมศักดิ์ ผบ.ฉก.อรัญประเทศ กองกำลังบูรพา มอบนโยบายให้ พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผบ.ชค.ทพ.12 จัดกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพรานในพื้นที่รับผิดชอบของชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 ดูแลพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างเข้มงวด จึงสั่งการให้ ร.อ.ศานิตย์พล บู่ศรี ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 1203 บ้านอ่างศิลา กรมทหารพรานที่ 12 บูรณาการร่วมกับ พ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 1201 ด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จัดเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวนรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่

ตั้งแต่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ไปจนถึงพื้นที่รอยต่อ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ตาม พ.ร.ก.บริหารราชการสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้า-ออกประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและการลักลอบนำสินค้าผิดกฎหมายเข้า-ออก บริเวณตะเข็บแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เนื่องจากกองกำลังบูรพามีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่เข้มงวด โดยการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตลอด 24 ชม.นั้น

ภาพจากอีจัน

ล่าสุด พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผบ.ชค.ทพ.12 เปิดเผยว่า หลังเจ้าหน้าที่ ร้อย ทพ.1203 ร่วมกับผู้นำชุมชน ได้ตั้งด่านตรวจแบบประจำที่ บ.อ่างศิลา ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และถนนสาย บ.อ่างศิลา-บ.โนนหมากมุ่น โดยได้ตรวจพบรถยนต์กระบะบรรทุก แบบมีหลังคาตู้ทึบ ต้องสงสัยขับผ่านด่านตรวจอย่างมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญาณให้หยุด เพื่อทำการตรวจสอบ พบมีชายชาวไทยเป็นผู้ขับขี่ ภายในรถพบชาวกัมพูชา จำนวน 7 ราย เป็นชายทั้งหมด นั่งอยู่ภายในหลังคาตู้ทึบของรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน นาวาร่า สีเทา ทะเบียน 2ฒน-6400 กรุงเทพมหานคร จึงได้นำตัวชาวกัมพูชาและรถยนต์มาตรวจสอบภายในด่านตรวจ ส.1

จากการสอบสวน พบว่า คนขับรถคันดังกล่าว ทราบชื่อต่อมาว่า นายนิรันดร์ รวยเงิน อายุ 49 ปี ชาว จ.ลำปาง

ส่วนชาวกัมพูชาที่มากับรถคันดังกล่าว ประกอบด้วย

นายเกียง ลาดี อายุ 23 ปี
นายเกียง ซีนา อายุ 28 ปี
นายเฮียน นน อายุ 24 ปี
นายเวิส ปู้ย อายุ 20 ปี
นายเวิส ปิก อายุ 23 ปี
นายตัว เตียม อายุ 24 ปี
นายลม ละ อายุ 24 ปี
โดยทั้งหมดมีพาสปอร์ตติดตัวมาด้วย

ทั้งนี้ ชาวกัมพูชาทั้งหมดให้การว่า เดินทางไปทำงานในพื้นที่ตอนในที่ ต.บ้านแพ้ว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ได้เหมารถแท็กซี่มาลงที่ตลาดบางวัวในราคา 5,000 บาท และได้มาว่าจ้าง นายนิรันดร์ ในราคา 3,500 บาท ให้มาส่งที่ บ.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา ในประเทศกัมพูชา เนื่องจากไม่มีงานทำเพราะสถานการณ์ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ทางเจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.1203 จึงได้ส่งตัวให้กับพนักงานสอบสวน สภ.โคกสูง เพื่อดำเนินคดีข้อหาขัดคำสั่งจังหวัด กรณีห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้ามาในเขตพื้นที่จังหวัดสระแก้ว และผิด พ.ร.ก.บริหารราชการสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เพื่อดำเนินคดีทางกฎหมาย

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารพรานได้ร่วมกันบูรณาการตรวจสอบแนวชายแดนตลอดเส้นทางเพื่อตรวจเข้มโรคไวรัสโควิด-19 และขบวนการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในช่วงประกาศเคอร์ฟิว รวมทั้งการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ซึ่งถือว่าเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งจังหวัดสระแก้ว ที่ 944/2563 ลงวันที่ 5 เม.ย.63 เรื่องห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ข้อ 2 ห้ามรถตู้โดยสารส่วนบุคคล หรือรถยนต์ส่วนบุคคลที่บรรทุกผู้โดยสารต่างด้าวทุกกรณี เดินทางเข้ามาในเขตพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ทั้งนี้ คำสั่งฉบับนี้ออกโดยผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ซึ่งอาศัยอำนาจตาม มาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 โดยผู้ที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม มาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ด้วย