อุตุฯ เตือน อีสาน-ตะวันออก พายุฤดูร้อนจะกลับมาอีกครั้ง

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศอีก 7 วันข้างหน้า เตือนประชาชนในภาคอีสาน ภาคตะวันออก 12-14 เม.ย.63 ระวังพายุฤดูร้อนอีกครั้ง!

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศในอีก 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 8 เมษายน 2563 – 14 เมษายน 2563 ว่า
การคาดหมาย ช่วงวันที่ 8 – 11 เม.ย. 63 บริเวณประเทศไทยจะมีอากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ และมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่งในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 12 – 14 เม. ย. 63 ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรง รวมทั้งอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ภาพจากอีจัน

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 8 – 11 เม.ย. 63 หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดสอบเข้าหากันและนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น ส่วนในวันที่ 12 – 14 เม.ย. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ส่งผลทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น

ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 8 – 11 เม.ย. 63 อากาศร้อนถึงร้อนจัด มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-43 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 12 – 14 เม. ย. 63 อากาศร้อนโดยทั่วไป
โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อนโดยทั่วไป ตลอดช่วง
โดยในช่วงวันที่ 8 – 11 เม.ย. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-39 องศาเซลเซียส

ส่วนในวันที่ 12 – 14 เม. ย. 63 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส

ภาพจากอีจัน
ภาคกลาง อากาศร้อนถึงร้อนจัด ตลอดช่วง โดยในช่วงวันที่ 8 – 11 เม.ย. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง

ส่วนในช่วงวันที่ 12 – 14 เม. ย. 63 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-41 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก

อากาศร้อนโดยทั่วไปและมีอากาศร้อนจัดบางแห่ง ตลอดช่วง
โดยในช่วงวันที่ 8 – 11 เม.ย. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง

ส่วนในวันที่ 12 – 14 เม. ย. 63 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

อากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

อากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
อากาศร้อน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ตลอดช่วง
โดยในช่วงวันที่ 8 – 11 เม.ย. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง

ส่วนในวันที่ 12 – 14 เม. ย. 63 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส

ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 12 – 14 เม. ย. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมถึงลูกเห็บตก โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย