หนุ่มจัดแจกข้าวเมืองกาญจน์ฯ แจง หลังโซเชียลถล่ม ชี้ วางระบบอย่างดี แต่คนมาเยอะเกินคาด

เจ้าของร้านล้อแม็ก จัดแจกข้าวเมืองกาญจน์ฯ แจง หลังโซเชียลถล่ม ชี้ งานมีการวางระบบอย่างดี แต่คนมาเยอะเกินคาด เผย เสียใจที่คนมองไม่เห็นเจตนา

(1 เมษายน 2563) หลังจากโลกโซเชียลได้มีการแชร์ภาพการแจกข้าวกล่องและอาหารแห้ง โดยเจ้าของร้านจำหน่ายล้อแม็กรถยนต์และกลุ่มเพื่อน ที่ริมถนนอู่ทอง เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ซึ่งในภาพจะเห็นได้ว่า ผู้คนมารอรับของแจกกันแน่น จนทำให้หลายฝ่ายเกิดความวิตกกังวลว่า อาจจะเป็นการทำให้มีการติดต่อแพร่เชื้อโควิด-19 จนเกิดการพิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักนั้น

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ล่าสุด นายเดชา สมพงษ์ เจ้าของร้านล้อแม็ก ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เล่าว่า แรกเริ่ม ตนกับกลุ่มเพื่อน ได้ลงขันกัน เพื่อจัดหาข้าวกล่องและอาหารแห้ง รวมถึงน้ำดื่มมาแจกจ่ายให้กับกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 หวังช่วยลดผลกระทบความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน โดยจัดเตรียมของเอาไว้ทั้งสิ้น 700 ชุด พร้อมจัดวางระบบการคัดกรองผู้เข้ารับของแจก โดยมีทั้งจุดตรวจวัดไข้โดยเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลกาญจนบุรีเมโมเรียล หากพบว่าผู้ที่จะเข้ารับของแจกมีไข้สูงก็จะไม่ให้เข้ามาภายในงาน โดยจะให้รับของแจกภายนอก แล้วเดินทางกลับบ้านทันที

นอกจากนี้ ผู้ที่จะเข้ารับของแจกจะต้องสวมหน้ากากอนามัยและใช้เจลล้างมือก่อนเข้างาน โดยมีการวางกำลังพนักงานเจ้าหน้าที่ของทางร้านกว่า 20 คน คอยดูแลความเรียบร้อย แต่ภาพที่ออกมาที่เห็นว่ามีคนหลายร้อยคนมาเบียดเสียดนั้น เนื่องมาจากว่า เมื่อถึงช่วงแจกของในเวลา 12.00 น. มีคนมาต่อแถวเป็นจำนวนมากไม่ต่ำกว่า 300 คน ต่างคนก็กลัวว่าจะไม่ได้รับของแจก จึงเบียดเข้ามาจนเกิดความแออัด เจ้าหน้าที่ที่เตรียมไว้ไม่สามารถคุมสถานการณ์ได้อยู่ จนกลายเป็นภาพความชุลมุนอย่างที่เห็น ทำให้ของที่เตรียมไว้ 700 ชุด หมดภายในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
เมื่อเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ออกมาในโลกโซเชียล ตนในฐานะเจ้าของผู้จัดงานก็เกิดความไม่สบายใจ และขอชี้แจงว่าตนรวมถึงกลุ่มเพื่อนที่ร่วมกันจัดงาน มีการวางแผนวางระบบไว้เป็นอย่างดี โดยเว้นระยะผู้รับของแจกไม่ต่ำกว่า 1เมตร จัดเจลล้างมือและจุดตรวจวัดไข้ไว้บริการ แต่เนื่องจากมีผู้มาต่อแถวเข้ารับของแจกเป็นจำนวนมากเกินกว่าที่วางแผนการเอาไว้ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

หลังถูกโซเชียลรุมถล่ม ตอนนี้ก็ยังรู้สึกมึนๆ และรู้สึกเสียใจที่คนส่วนใหญ่มองไม่เห็นเจตนาดีที่ตนตั้งใจช่วยเหลือผู้อื่น แต่ทั้งนี้ ก็ยอมรับว่าตนอาจจะประมาทจัดระเบียบไม่ดีพอ จากนี้ไป ก็คงจะไม่กล้าจัดกิจกรรมเช่นนี้อีก หากจะจัดก็คงจะต้องมีการวางแผนงานให้ดีกว่านี้