กทม.ประกาศจำกัดเวลา เปิด-ปิด ซุปเปอร์มาร์เก็ต กับร้านค้าเเผงลอย ใครฝ่าฝืนทั้งจำทั้งปรับ!

ผู้ว่าฯกทม. ประกาศจำกัดเวลา ร้านสะดวกซื้อ-ร้านอาหาร พร้อมปิดสวนสาธารณะชั่วคราว มีผล 2-30 เม.ย.63

ประกาศกรุงเทพมหานครเรื่องสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว

ตามที่ได้มีประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวลงวันที่ 27 มีนาคม 2563 โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯตามมติที่ประชุม เพื่อลดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า อันเป็นโรคติดต่ออันตราย จำกัดการรวมคนหรือการชุมนุมของประชาชนในสถานที่ต่างๆเพื่อไม่ให้การแพร่ระบาดขยายไปในวงกว้าง แต่เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมีความจำเป็นต้องปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวเพิ่มเติม

ภาพจากอีจัน

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ. ศ. 2558 และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ 2548 ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อ กรุงเทพฯ

1. ให้ยกเลิก ข้อ 1 ของประกาศกรุงเทพมหานครเรื่องสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวฉบับที่ 4 ลงวันที่ 27 มีนาคม 2563
2. ให้ปิดสถานที่ดังต่อไปนี้เป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2563
2.1 ร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม ร้านอาหารหรือเครื่องดื่มที่อยู่ในคูหารถเข็นและแผงลอยจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มให้เปิดได้ตั้งแต่เวลา 15.00 น.ถึงเวลา 24.00 น.และเฉพาะการจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มเพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น ร้านอาหารหรือเครื่องดื่มในโรงแรมที่ให้บริการเฉพาะผู้ที่พักอาศัยในโรงแรม หรือจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มเพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่นยกเว้นร้านอาหารหรือเครื่องดื่มที่ตั้งอยู่ในบริเวณสนามบินและโรงอาหารในโรงพยาบาล สามารถจัดที่นั่งในการรับประทานอาหารได้
2.2 ร้านสะดวกซื้อซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านลักษณะเดียวกับร้านสะดวกซื้อให้ปิดตั้งแต่เวลา 00.01 น.ถึงเวลา 05.00 น.
2.3 สวนสาธารณะทุกแห่งทั้งของรัฐและเอกชน

ภาพจากอีจัน

ทั้งนี้สถานที่ที่ได้รับยกเว้นตามประกาศนี้หรือสถานที่อื่นนอกเหนือจากประกาศนี้ ให้ผู้เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมาตราป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนดและข้อ 11 ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563

ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามอาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับและอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะจึงไม่อยากให้คู่กรณีใช้สิทธิ์โต้แย้งตามมาตรา 30 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองพ.ศ 2539 ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2563 เป็นต้นไป